ผลสำรวจชี้ ชาวไต้หวันหวั่นจีนส่งเครื่องบินรบโจมตีไต้หวัน

In this photo released by the Taiwan Ministry of National Defense, a Chinese People's Liberation Army H-6 bomber fitted with the YJ-12 anti-ship cruise missile is seen flying near the Taiwan air defense identification zone near Taiwan on Friday.

ผลสำรวจความคิดเห็นชี้ว่า เวลานี้มีชาวไต้หวันจำนวนมากขึ้นมีความกังวลต่อเหตุการณ์ที่เครื่องบินรบจีนบินเข้าไปในเขตน่านฟ้าของไต้หวัน รวมทั้งกังวลว่าอาจเกิดการโจมตีจากจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย ท่ามกลางความตึงเครียดทางการเมืองของสองประเทศ

กระะทรวงกลาโหมไต้หวันรายงานว่า กองทัพอากาศของจีนได้เพิ่มจำนวนเครื่องบินรบที่บินผ่านบริเวณเส้นแบ่งพรมแดนทางทะเลของไต้หวันในช่วงสี่เดือนที่ผ่านมา โดยเมื่อวันศุกร์ เครื่องบินรบของจีน 18 ลำบินผ่านเขตน่านฟ้าของไต้หวัน และในวันเสาร์อีก 19 ลำ

กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุด้วยว่า เครื่องบินรบจีนบินผ่านน่านฟ้าไต้หวันในวันเสาร์โดยมีการจัดรูปแบบการบินในลักษณะพร้อมโจมตี และมีบางลำที่บินผ่านน่านฟ้าไต้หวันในระยะทางห่างจากเกาะไต้หวันเพียง 80 กม.

แถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมไต้หวันกล่าวว่า ไต้หวันมีสิทธิ์ในการปกป้องตนเองด้วยการโจมตีตอบโต้หากถูกโจมตีก่อน

Taiwan President Tsai Ing-wen delivers her address to soldiers amid the COVID-19 coronavirus

ผลการสำรวจความคิดเห็นเมื่อต้นเดือนกันยายน ซึ่งจัดทำโดย Yahoo ชี้ว่า 64% ของชาวไต้หวันเป็นกังวลต่อความขัดแย้งกับจีนแผ่นดินใหญ่ ขณะที่ 33.5% ไม่มีความกังวล ส่วนที่เหลือไม่มีความเห็น

อาจารย์อเล็กซานเดอร์ หวง ผู้เชี่ยวชาญด้านยุทธศาสตร์แห่งมหาวิทยาลัย Tamkang ในไต้หวัน เชื่อว่า ประชาชนไต้หวันยังไม่มีการเตรียมใจหากเกิดกรณีพิพาททางทหารระหว่างจีนกับไต้หวันขึ้นจริง ๆ

จีนเริ่มส่งเครื่องบินรบบินผ่านน่านฟ้าของไต้หวันหลังจากที่ประธานาธิบดี ไช่ อิง-เหวิน เข้ารับตำแหน่งผู้นำไต้หวันและปฏิเสธเข้าร่วมเจรจากับรัฐบาลกรุงปักกิ่ง ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนเชื่อว่า จีนได้ติดตั้งระบบขีปนาวุธภาคพื้นดินที่เล็งไปทางไต้หวันอีกด้วย

ทั้งนี้ ในการสำรวจความคิดเห็นชาวไต้หวันเมื่อปีที่แล้ว แสดงให้เห็นว่าชาวไต้หวันส่วนใหญ่ต่อต้านการเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของจีน และในการสำรวจของ Taiwan Public Opinion Foundation เมื่อเดือนสิงหาคม พบว่าชาวไต้หวัน 41% หวาดกลัวการซ้อมรบของกองทัพจีน

Taiwan military

ปัจจุบัน กองทัพจีนถูกจัดอันดับว่ามีศักยภาพทางการทหารเป็นอันดับ 3 ของโลก ขณะที่ไต้หวันอยู่ในอันดับที่ 26 อ้างอิงจากเว็บไซต์ GlobalFirePower.com

ขณะนี้จีนถือว่าไต้หวันเป็นจังหวัดหนึ่งของตนและประกาศจะใช้กำลังเข้าจัดการหากไต้หวันพยายามแยกตัวออกเป็นอิสระ ส่วนสหรัฐฯ นั้นเหมือนกับหลายประเทศทั่วโลกที่มีความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนปักกิ่งเพียงจีนเดียว แต่สหรัฐฯ เป็นประเทศผู้ขายอาวุธรายใหญ่และเป็นผู้สนับสนุนที่สำคัญของไต้หวันบนเวทีการเมืองระหว่างประเทศ