กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศมาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจต่อธนาคารรัสเซียที่ช่วยให้เกาหลีเหนือหลีกเลี่ยงมติของคณะมนตรีความมั่นคงสหประชาชาติในการควบคุมโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของกรุงเปียงยาง
กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า ธนาคาร Agrosoyuz Commercial Bank ในกรุงมอสโก ได้ทำธุรกรรมการเงินกับเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ นายฮาน จาง ซู ซึ่งมีชื่ออยู่ในบัญชีดำของสหรัฐฯ ในฐานะผู้อำนวยการธนาคาร Foreign Trade Bank (FTB) ของเกาหลีเหนือ สาขากรุงมอสโก ที่มีส่วนสนับสนุนโครงการขีปนาวุธและนิวเคลียร์ของกรุงเปียงยาง
นอกจากนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ยังได้มุ่งเป้าไปที่บริษัท Dandong Zhongsheng Industry & Trade Co. Ltd. และบริษัท Korea Ungum Corporation ซึ่งเชื่อว่าเป็นส่วนหนึ่งของธนาคาร FTB ด้วย
คำประกาศของกระทรวงการคลังครั้งนี้มีขึ้นขณะที่กำลังมีการหารือระหว่าง รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ ไมค์ พอมเพโอ และรัฐมนตรีต่างประเทศจีน หวง อี้ ที่สิงคโปร์ ซึ่งคาดว่ารัฐมนตรีพอมเพโอจะพยายามโน้มน้าวให้ที่ประชุมสมาคมอาเซียนปฏิบัติตามมาตรการลงโทษต่อเกาหลีเหนือดังกล่าวด้วย
รัฐมนตรีของสองประเทศมิได้แถลงข่าวหลังการหารือ แต่ต่อมาทางทางจีนเตือนว่าอาจจะเพิ่มมาตรการภาษีชุดใหม่ในอัตรา 5 - 25% กับสินค้ากว่า 5,200 ชนิดจากสหรัฐฯ คิดเป็นมูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ หากรัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงใช้วิธีข่มขู่จีนด้วยมาตรการทางภาษี
เมื่อวานนี้ กระทรวงพาณิชย์จีนเตือนว่า มาตรการเพิ่มภาษีที่สหรัฐฯ จะนำมาใช้ตอบโต้กับจีนนั้น จะไม่ก่อประโยชน์อันใด แต่จะยิ่งทำให้ทั่วโลกผิดหวัง หลังจากที่ ปธน.ทรัมป์ ได้ขอให้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ พิจารณาเรื่องการขึ้นภาษีกับสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 200,000 ล้านดอลลาร์ ในอัตรา 25% จากเดิมที่กำหนดไว้ 10%
ก่อนหน้านี้ สหรัฐฯ ได้กำหนดอัตราภาษี 25% สำหรับต่อสินค้านำเข้าจากจีนมูลค่า 34,000 ล้านดอลลาร์ และกำลังจะเพิ่มอีก 16,000 ล้านดอลลาร์ในช่วงไม่กี่สัปดาห์จากนี้
สำหรับที่สิงคโปร์ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศของประเทศสมาชิกสมาคมอาเซียนในสุดสัปดาห์นี้ เพื่อหาเสียงสนับสนุนยุทธศาสตร์ใหม่ของสหรัฐฯ คือการเปิดเสรีแถบ "อินโด-แปซิฟิก"
คาดว่าประเด็นสำคัญในการหารือระหว่างรัฐมนตรีต่างประเทศของ 17 ประเทศ ในการประชุมครั้งนี้ คือเรื่องของความมั่นคงในภูมิภาคเอเชีย ซึ่งรวมถึง ภัยคุกคามด้านนิวเคลียร์จากเกาหลีเหนือ ข้อพิพาทในทะเลจีนใต้ วิกฤติการณ์ชาวโรฮิงจะในรัฐยะไข่ของเมียนมาร์ และความปลอดภัยทางไซเบอร์
ในการเดินทางเยือนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ครั้งนี้ ก่อนร่วมประชุมอาเซียนที่สิงคโปร์ รัฐมนตรีพอมเพโอแวะที่มาเลเซีย เพื่อพบหารือกับนายกรัฐมนตรีคนใหม่ มหาธีร์ มูฮัมหมัด และต่อจากนี้จะเดินทางไปยังอินโดนีเซีย เพื่อพบกับประธานาธิบดีโจโก วีโดโด้ ก่อนที่จะเดินทางกลับสหรัฐฯ ในสัปดาห์หน้า