จีนยืนยันจับกุมพลเมืองแคนาดารายที่ 3 ข้อหาลอบทำงานผิดกฎหมาย

A police officer gestures at the photographer as security staff stand guard outside the Canadian embassy in Beijing, Dec. 20, 2018.

จีนยืนยันในวันพฤหัสบดีว่าได้จับกุมพลเมืองชาวแคนาดารายที่ 3 ซึ่งเป็นสตรี ในความผิดฐานลักลอบทำงานอย่างผิดกฎหมาย ตามรายงานที่สื่อแคนาดาเปิดเผยออกมาเมื่อวานนี้

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน หัว ชุนหยิง (Hua Chunying) กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า สตรีที่ถูกจับกุมคนล่าสุด มีชื่อว่า ซาราห์ แม็คอีฟเวอร์ (Sarah McIver) ซึ่งต้องรับโทษตามความผิดฐานลักลอบทำงานในประเทศจีน แต่มิได้ระบุว่าการลงโทษนั้นคืออะไร

เมื่อวานนี้ หนังสือพิมพ์ National Post ในแคนาดา รายงานว่า มีพลเมืองชาวแคนาดาถูกจับกุมในประเทศจีนเป็นคนที่ 3 และระบุว่าสตรีที่ถูกจับนั้นมีอาชีพเป็นครู

นายกรัฐมนตรีแคนาดา จัสติน ทรูโด กล่าวเมื่อวันพุธว่า รัฐบาลแคนาดากำลังตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับคดีนี้ พร้อมระบุว่ากรณีการจับกุมคุณซาราห์ แม็คอีฟเวอร์ นี้ ไม่เกี่ยวข้องกับพลเมืองชาวแคนาดาสองคนที่ถูกจับกุมในประเทศจีนก่อนหน้านี้

เมื่อต้นเดือนนี้ มีชาวแคนาดา 2 คนถูกจับกุมในประเทศจีน ได้แก่ นายไมเคิล คอฟริก อดีตนักการทูตแคนาดา และนายไมเคิล สเปวอร์ ที่ปรึกษาด้านธุรกิจ ซึ่งเชื่อว่าเป็นการตอบโต้ของทางการจีน หลังจากที่แคนาดาได้จับกุม เมิ่ง ว่านโจว (Meng Wanzhou) ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการเงินบริษัทหัวเหว่ย (Huawei Technologies) ของจีน เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม ในข้อหาละเมิดมาตรการลงโทษอิหร่าน

โดยศาลแคนาดาอนุญาตให้ประกันตัวเธอเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เดินเรื่องขอให้แคนาดาส่งตัวเธอมาดำเนินคดีในอเมริกา เนื่องจากรัฐบาลอเมริกันกล่าวหา เมิ่ง ว่านโจว ว่าได้ปกปิดความเชื่อมโยงของหัวเหว่ยกับบริษัทฮ่องกงรายหนึ่ง ที่ชื่อ Skycom ที่ขายอุปกรณ์เทคโนโลยีอเมริกันให้กับอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นความผิด เพราะสหรัฐฯ ใช้มาตรการลงโทษอิหร่านอยู่ในขณะนี้​

ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าเขาอาจแทรกเเซงการดำเนินคดีสตรีผู้นี้

ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เขาจะดำเนินการในทางที่ให้ผลดีต่อสหรัฐฯ และว่า “จะแทรกแซงอย่างแน่นอน ถ้าหากเห็นว่าจำเป็น” ในการทำให้เกิดการเจรจาการค้ากับจีนเกิดผลที่เป็นประโยชน์ต่ออเมริกา