หลังจากที่ศาลแคนาดาอนุญาตให้ประกันตัว เมิ่ง ว่านโจว ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายการเงินบริษัทหัวเหว่ย (Huawei Technologies) ของจีน ออกจากที่คุมขัง เพื่อรอฟังผลคดีที่สหรัฐฯต้องการนำตัวเธอมาลงโทษในอเมริกา ในข้อหาละเมิดมาตรการลงโทษอิหร่าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ ว่าเขาอาจแทรกเเซงการดำเนินคดีสตรีผู้นี้
ผู้นำสหรัฐฯกล่าวกับสำนักข่าวรอยเตอร์ว่า เขาจะดำเนินการในทางที่ให้ผลดีต่อสหรัฐฯ
ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวว่า เขา “จะแทรกแซงอย่างแน่นนอน ถ้าหากเห็นว่าจำเป็น” ในการทำให้เกิดการเจรจาการค้ากับจีนเกิดผลที่เป็นประโยชน์ต่ออเมริกา
เมิ่ง ว่านโจว ผู้ดำรงตำแหน่งซีเอฟโอของหัวเหว่ยได้รับการประกันตัวด้วยทรัพย์สินมูลค่า 7 ล้าน 5 แสนดอลลาร์พร้อมถูกยึดหนังสือเดินทาง และจะต้องใส่เครื่องรัดข้อเท้าติดจีพีเอส เพื่อที่ว่าเจ้าหน้าที่จะได้ทราบหากเธอหนีออกจากนครเเวนคูเวอร์ประเทศเเคนาดา
นอกจากนี้เธอถูกกักบริเวณให้อยู่ที่บ้านพักของเธอในนครเเวนคูเวอร์ ช่วงเวลา 5 ทุ่มถึง 6 โมงเช้า
สหรัฐฯเดินเรื่อง ขอให้แคนาดาส่งตัวเธอมาดำเนินคดีในอเมริกา เนื่องจากรัฐบาลอเมริกันกล่าวหา เมิ่ง ว่านโจว ว่าได้ปกปิดความเชื่อมโยงของหัวเหว่ยกับบริษัทฮ่องกงรายหนึ่ง ที่ชื่อ Skycom ที่ขายอุปกรณ์เทคโนโลยีอเมริกันให้กับอิหร่าน ซึ่งถือว่าเป็นความผิดเพราะสหรัฐฯใช้มาตรการลงโทษอิหร่านอยู่ในขณะนี้
เหตุการณ์จับกุมผู้บริหารหัวเหว่ย ซึ่งเป็นลูกสาวผู้ก่อตั้งบริษัทครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงผลที่กว้างไกลของคดีต่การเจรจาการค้าจีนและสหรัฐฯ และเป็นเครื่องชี้ถึงสายสัมพันธ์ของบริษัทที่มีต่อเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน
หากว่า เมิ่ง ว่านโจวถูกตัดสินว่ามีความผิดในสหรัฐฯ เธออาจถูกสั่งจำคุกสูงสุดเป็นเวลา 30 ปี โดยที่ผ่านมาเธอปฏิเสธข้อกล่าวหาของทางการสหรัฐฯ
นักวิชาการ เจา จันหลิง จากศูนย์ Intellectual Property Center ที่ มหาวิทยาลัย China University of Political Science and Law กล่าวว่าสหรัฐฯ ไม่สามารถใ้ช้กฎหมายในประเทศมาลงโทษบริษัทต่างชาติ หรือผู้บริหารบริษัทเหล่านี้ได้
เขากล่าวว่าคดีนี้ยังมีความสลับซับซ้อนในเรื่องการเมือง การทูต และการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯและจีน
นักวิชาการผู้นี้กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ที่ ในที่สุดแล้ว ทางการอเมริกันอาจล้มเลิกความพยายามนำตัว เมิ่ง ว่านโจวมาดำเนินคดีในสหรัฐฯ เพื่อเป็นให้ได้้ขอเสนอดีๆในการเจรจาการค้ากับจีน
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีน ลู่ กัง กล่าวว่าเป็นความผิดพลาดตั้งแต่เเรกที่จับตัวซีเอฟโอหัวเหว่ยรายนี้ อย่างไรก็ตาม ทางกระทรวงยินที่ทราบว่า ประธานาธิบดีทรัมป์อาจทรกแซง เพื่อให้ได้ผลการเจรจาการค้าที่ดี
นอกจากนี้ทางการจีนได้กล่าวว่า ความพยายามที่จะนำตัวเมิ่ง ว่านโจวมาดำเนินคดี มี เหตุผลทางการเมืองมาเกี่ยวข้อง
รัฐบาลปักกิ่งได้ตำหนิแคนาดาและสหรัฐฯ ก่อนหน้านี้ไปเรียบร้อยเเล้ว
เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประทศจีน หลี่ ยู่เชง เรียกทูตสหรัฐฯประจำปักกิ่ง มารับฟังการประท้วงจากจีนต่อเหตุการณ์นี้
นายหลี่ ยู่เชงบอกกับทูตเทอร์รี แบรนด์สตาด ของสหรัฐฯว่า “การกระทำของสหรัฐฯ ฝ่าฝืนอย่างร้ายแรงต่อสิทธิ์ที่พึงมีของประชาชนชาวจีน”
ฝ่ายจีนกล่าวด้วยว่า จะมีการดำเนินการตอบโต้ ตามปฏิกิริยาที่สหรัฐฯมีต่อจากนี้
สำหรับแคนาดา ซึ่งจะตัดสินว่าจะส่งตัวผู้บริหารหัวเหว่ยรายนี้มายังอเมริกาหรือไม่เร็วๆนี้ อาจรู้สึกได้ถึงสัญญาณการตอบโต้จากจีน ในสัปดาห์นี้เช่นกัน เมื่ออดีตนักการทูตเเคนาดาประจำปักกิ่ง นายไมเคิล โคฟริก ถูกควบคุมตัวในประเทศจีน ในข้อหา “เป็นภัยต่อความมั่นคง” ตามรายงานของสื่อต่างประเทศ
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Bill Ide และ Joyce Huang)