กระทรวงสาธารณสุขจีน ระบุในวันอาทิตย์ว่า ได้สั่งการให้ทางการท้องถิ่น เพิ่มจำนวนคลินิกทั่วประเทศ ท่ามกลางการระบาดของโรคระบบทางเดินหายใจ ในช่วงฤดูหนาวแรกที่จีนยกเลิกมาตรการโควิดเป็นศูนย์
โฆษกคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขแห่งชาติจีน (National Health Commission-NHC) หมี่ เฟิง กล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า การเพิ่มขึ้นของโรคระบบทางเดินหายใจเฉียบพลันในจีนนั้น มีส่วนเชื่อมโยงกับการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องของเชื้อโรคบางชนิด โดยส่วนใหญ่เป็นเชื้อไข้หวัดใหญ่ และว่าได้สั่งเพิ่มจำนวนคลินิกที่ดูแลผู้ป่วยกลุ่มนี้เพิ่มขึ้น และขยายเวลาการให้บริการรวมทั้งให้ความเชื่อมั่นว่าจะมีปริมาณยารักษาเพียงพอ
นอกจากนี้ โฆษกคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขแห่งชาติจีน ยังเสริมว่า เป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องควบคุมการระบาดในประเทศ และจำกัดการเข้าถึงพื้นที่คนพลุกพล่าน เช่น โรงเรียน ศูนย์ดูแลเด็ก และศูนย์ดูแลคนชรา เพื่อลดความเสี่ยงการระบาด
ความกังวลถึงการระบาดใหญ่รอบใหม่เกิดขึ้นทั่วโลก หลังจากมีรายงานที่น่ากังวลเมื่อวันอังคารที่เผยแพร่โดย ProMED หน่วยงานเฝ้าระวังโรคอุบัติใหม่ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ International Society for Infectious Diseases ระบุว่า พบกลุ่มก้อนการระบาดของโรคทางเดินหายใจในจีน และเรียกร้องให้จีนเผยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “โรคปอดอักเสบที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย – จีน (ปักกิ่ง, เหลียวหนิง)” ซึ่งระบุถึงพิกัดการระบาดของโรคปอดอักเสบในเด็กที่กรุงปักกิ่ง และมณฑลเหลียวหนิงของจีน
ทั้งนี้ ข้อความมาตรฐานที่ใช้เตือนภัยการพบเชื้อโคโรนาไวรัสที่ได้กลายเป็นโควิด-19 ที่ระบาดใหญ่ไปทั่วโลกนั้น ถูกระบุไว้โดยหน่วยงานดังกล่าวเมื่อ 30 ธันวาคม 2019 ว่า “โรคปอดอักเสบที่ไม่ได้รับการวินิจฉัย – จีน (หูเป่ย)”
ทางการจีนระบุว่า ไข้หวัดใหญ่อาจระบาดหนักในฤดูหนาวและฤดูใบไม้ผลิปีนี้ ขณะที่การระบาดของเชื้อไมโคพลาสมา ที่เป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบจะยังพุ่งสูงในบางพื้นที่ของจีนในอนาคต พร้อมทั้งเตือนถึงความเสี่ยงของการกลับมาระบาดของโควิด-19 อีกด้วย
โดยผู้ป่วยโรคปอดอักเสบส่วนใหญ่ในจีนเป็นเด็ก ในพื้นที่ตอนเหนือของประเทศ อย่างกรุงปักกิ่ง และมณฑลเหลียวหนิง ซึ่งมีรายงานคนไข้ต่อคิดรอรับการรักษาแน่นขนัด
ที่ผ่านมา จีนและองค์การอนามัยโลก ถูกตั้งคำถามเกี่ยวกับความโปร่งใสในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 อนามัยโลกวิจารณ์จีนมาตลอดว่าปกปิดข้อมูลเรื่องการระบาดและตัวเลขผู้เสียชีวิต เมื่อจีนสั่งยกเลิก “มาตรการโควิดเป็นศูนย์” เช่นเดียวกับเรื่องของต้นตอของโควิด-19
- ที่มา: รอยเตอร์