Your browser doesn’t support HTML5
นาย Wang Yi รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของจีน กล่าวเตือนเรื่องวิกฤติการณ์ที่กำลังก่อตัวขึ้นระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ และเปรียบเทียบสถานการณ์ว่าเหมือน "รถไฟความเร็วสูงสองขบวนที่วิ่งเข้าหากัน และไม่มีฝ่ายใดเต็มใจจะหลีกเลี่ยงการปะทะนี้"
แต่รัฐมนตรีต่างประเทศของจีนก็ตำหนิเกาหลีเหนือ ที่ละเลยมาตรการลงโทษของนานาประเทศ และเรียกร้องเปียงยางให้ระงับการทดลองอาวุธนิวเคลียร์และการทดสอบขีปนาวุธ
ในขณะที่กล่าวโทษการซ้อมรบร่วมระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีใต้ ว่าเป็นสาเหตุหนึ่งของความตึงเครียด และเรียกร้องให้สหรัฐฯ ยุติการซ้อมรบบนคาบสมุทรเกาหลีเช่นกัน
ขณะที่จีนพยายามชี้ว่า ความตึงเครียดและความขัดแย้งเรื่องอาวุธนิวเคลียร์บนคาบสมุทรเกาหลี เป็นเรื่องระหว่างสหรัฐฯ กับเกาหลีเหนือ
แต่ก็ยอมรับว่าจีนมีบทบาทอย่างสำคัญ เพราะความสัมพันธ์อย่างใกล้ชิดกับเกาหลีเหนือนั้นเปรียบเสมือน "ริมฝีปากกับฟัน"
นักวิเคราะห์บางคน เช่น อาจารย์ Mohan Malik จากศูนย์เอเซียแปซิฟิคเพื่อการศึกษาด้านความมั่นคง ในรัฐฮาวาย กลับมองว่า คำกล่าวของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน สะท้อนถึงความล้มเหลวด้านนโยบายเกาหลีเหนือของจีน
และว่า "ขณะนี้เกาหลีเหนือเป็นเหมือนฟันที่แหลมคมมากจากการมีขีปนาวุธติดหัวรบนิวเคลียร์ และริมฝีปากซึ่งคือจีนนั้นก็กำลังมีเลือดไหลด้วย"
อาจารย์ Mohan Malik ชี้ด้วยว่า นายคิม จอง อึน เป็นผู้นำเกาหลีเหนือคนเดียวในขณะนี้ ที่ไม่ได้ไปเยือนจีน และการจัดลำดับความสำคัญของจีนเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ คือการป้องกันให้ปราศจากภาวะไร้เสถียรภาพ ปราศจากสงคราม และปราศจากอาวุธนิวเคลียร์
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ Mohan Malik ก็เชื่อว่า สำหรับความเปลี่ยนแปลงที่จะต้องเกิดขึ้นนั้น จีนมีโอกาสมากกว่าประเทศอื่นใด เพราะขณะนี้ปักกิ่งทราบข้อมูลความเป็นไปของรัฐบาลกรุงเปียงยางเป็นอย่างดี
และกองทัพปลดแอกประชาชนจีนก็อยู่ในฐานะพร้อมจะจัดตั้งระบอบการปกครองที่ฝักใฝ่จีนขึ้น หากระบอบการปกครองของนายคิม จอง อึน ต้องล่มสลายลง
และพร้อมจะเข้าทำสงครามเกาหลีครั้งต่อไป เพื่อสถาปนาการมีอำนาจอิทธิพลเหนือคาบสมุทรเกาหลีขึ้นด้วย
ส่วนอาจารย์ Oh Ei Sun แห่ง S. Rajaratnam School of International Studies ในสิงคโปร์ เชื่อว่าจากพฤติกรรมที่ยากต่อการคาดเดาของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้มองตนเองว่าเป็นนักเจรจาต่อรอง
ก็ทำให้โอกาสที่สหรัฐฯ จะเปลี่ยนท่าทีและหันไปเปิดช่องทางติดต่อกับเกาหลีเหนือนั้นอาจไม่เกินเลยความคาดฝัน!