Your browser doesn’t support HTML5
ขณะนี้ สถานีโทรทัศน์ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของจีน ออกอากาศรายการเกมโชว์ตอบคำถามประวัติชีวิตและทัศนะทางการเมืองของประธานาธิบดีสี จินผิง
รายการดังกล่าวมีชื่อที่แปลเป็นไทยได้ว่า “ความคิดด้านสังคมนิยมของสี จินผิง และคุณลักษณะความเป็นจีนยุคใหม่” เรียกสั้นๆว่า “ความคิดของสี จินผิง”
เกมโชว์นี้ถูกมองว่าเป็นความพยายามของพรรคคอมมิวนิสต์จีน ที่ต้องการใช้เทคนิคโฆษณาชวนเชื่อผ่านสื่อที่เป็นเครื่องมือของรัฐ
ผลตอบรับของรายการ “ความคิดของสี จินผิง” ถูกสะท้อนอยู่ในถ้อยคำแสดงความไม่พอใจบนโลกออนไลน์
ผู้ใช้สื่อสังคมออนไลน์รายหนึ่งของจีน กล่าวว่า “คนดูจะไม่ชอบรายการนี้ และคอยรอดูวันที่เรทติ้งของรายการจะตกลง” และอีกรายหนึ่งกล่าวว่ารายการนี้เป็น “เหมือนยาพิษ”
ตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา สถานีโทรทัศน์ Hunan TV ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่คนรุ่นใหม่ สำหรับรายการบันเทิงและละคร ออกอากาศซีรี่ส์ 5 ตอน ที่มีชื่อว่า “เรียนรู้ เกี่ยวกับสี (จินผิง) ในยุคใหม่”
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รายการนี้ซึ่งถูกถ่ายทอดในรูปแบบที่ทันสมัย แสดงให้เห็นถึงความพยายามล่าสุดของของพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่จะจูงใจคนรุ่นใหม่ซึ่งโตมาท่ามกลางสื่อต่างชาติ ให้พวกเขาหันมาสนใจความคิดสังคมนิยมของพรรคแทน
Bruce Lui นักข่าวและอาจารย์สาขาวารสารศาสตร์ ที่มหาวิทยาลัย Hong Kong Baptist University กล่าวว่า ประเด็นตอนนี้ไม่ใช่ว่ารายการนี้จะเป็นที่นิยมหรือไม่ แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับการใช้กลยุทธ์โฆษณาชวนเชื่อ
เขากล่าวว่า ตัวอย่างที่เห็นชวนให้วิเคราะห์ว่า สี จินผิง ใช้วิธีการอย่างไรในการทำให้ตนเองปรากฏอยู่ในสื่อทุกหนทุกแห่ง ผ่านการนำเสนอที่เข้าถึงง่าย เพื่อขยายอิทธิพลทางความคิดด้านสังคมนิยม
ตัวแทนของสถานีโทรทัศน์ Hunan TV ไม่ตอบคำถามที่วีโอเอส่งไปหลายครั้ง ในการทำข่าวเรื่องนี้
หลังจากที่ความคิดทางการเมืองของ ประธานาธิบดี สี จินผิง ถูกผนวกอยู่ในรัฐธรรมนูญของจีน เมื่อเดือนมีนาคม เกิดความพยายามหลายครั้งที่จะผลักดันให้คนศึกษาทฤษฎีการเมืองของผู้นำทั่วประเทศจีน ผ่านสื่อ หน่วยงานท้องถิ่นและสถาบันการศึกษา หรือแม้แต่โบสถ์ ก็กลายเป็นสถานที่ถ่ายทอดความคิดทางการเมืองด้วย
ในขณะนี้ ยังเกิดคำถามว่าแนวทางการแพร่ขยายความคิดทางการเมืองนี้ประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน
รองศาสตราจารย์สู ฮิวหมิง ซึ่งสอนวิชาวารสารศาสตร์ แห่งมหาวิทยาลัยกวางเจา กล่าวว่า ส่วนใหญ่แล้วข่าวสารจากสื่อมักไม่สามารถเปลี่ยนทัศนะคติของคนดูได้
เขาเสริมว่า ส่วนใหญ่คนที่ตั้งตารอชมก็จะสนใจรายการนี้ ส่วนผู้ที่รู้สึกตรงข้ามอยู่แล้ว น่าจะเป็นว่าเป็นเรื่องรับไม่ได้
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Joyce Huang)