จีนลดดอกเบี้ยหวังกระตุ้นศก. หลังเผชิญแรงกดดันหลายด้าน

รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจของจีนในวันอังคารเน้นย้ำให้เห็นถึงแรงกดดันหลายด้านต่อเศรษฐกิจจีน ส่งผลให้รัฐบาลกรุงปักกิ่งต้องประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงทันทีเพื่อกระตุ้นการผลิตและการจ้างงาน

ในวันอังคาร ธนาคารกลางของจีนประกาศลดอัตราดอกเบี้ยอย่างไม่มีการส่งสัญญาณล่วงหน้า หลังจากที่ข้อมูลที่เปิดเผยโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (National Bureau of Statistics - NBS) ชี้ให้เห็นถึงการเติบโตในระดับที่ต่ำกว่าที่คาดไว้ทั้งในด้านยอดขายปลีก การผลิตภาคอุตสาหกรรมและการลงทุน ในช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา

นอกจากนี้ทางการจีนยังได้ระงับการเปิดเผยตัวเลขการว่างงานในกลุ่มคนหนุ่มสาวในเดือนที่ผ่านมา หลังจากตัวเลขนี้แตะระดับสูงสุดเป็นสถิติใหม่เมื่อเดือนมิถุนายนที่ 21.3%

จูเลียน เอวานส์-พริตชาดส์ นักเศรษฐศาสตร์ของ Capital Economics กล่าวว่า กิจกรรมหลักทางเศรษฐกิจทั้งหมดชี้ให้เห็นถึงเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงในเดือนกรกฎาคม ประกอบกับปัญหาการเงินของบริษัทอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ ทำให้เกิดความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจีนจะเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกเสียจากรัฐบาลจะมีนโยบายมารองรับเร็ว ๆ นี้

ด้านนักวิเคราะห์ของ Nomura เชื่อว่า เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในขาลง และจุดต่ำสุดยังรออยู่ข้างหน้า โดยไม่เชื่อว่ามาตรการลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางจีนจะช่วยอะไรได้มากนัก

การถดถอยเชิงโครงสร้าง

ปัญหาในภาคอสังริมทรัพย์ หนี้ระดับสูงของรัฐบาลส่วนท้องถิ่น อัตราการว่างงานสูงในหมู่คนหนุ่มสาว และความต้องการสินค้าที่ลดลงในตลาดโลก ล้วนเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อความพยายามฟื้นฟูเศรษฐกิจจีนภายหลังการระบาดของโควิด-19

โรเบิร์ต คาร์เนลล์ หัวหน้านักวิจัยด้านเอเชีย-แปซิฟิก ของบริษัทการเงิน ING กล่าวว่า ปัจจุบัน จีนกำลังอยู่ระหว่างการเปลี่ยนแปลงไปสู่ระบบเศรษฐกิจที่พึ่งพาการบริโภคในประเทศ และลดความสำคัญของภาคอสังหาริมทรัพย์และการก่อหนี้

"เราจะเห็นตัวเลขเศรษฐกิจมหภาคที่อ่อนแออย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญของการปรับเปลี่ยนนี้ และเป็นการปลดเปลื้องออกจากรูปแบบเดิมของการขยายตัวที่เน้นภาคอสังหาริมทรัพย์ที่มีการก่อหนี้ในระดับสูง ดังนั้นเราจำเป็นต้องลดความความหวังต่อการเจริญเติบโตของเศรษฐจีนลง" คาร์เนลล์กล่าว

ทั้งนี้ จีนตั้งเป้าการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปีนี้ไว้ที่ระดับ 5% แต่รายงานวิเคราะห์ของ Nomura เตือนว่าจีนอาจทำไม่ได้ตามเป้าหมายนี้ เหมือนที่พลาดมาแล้วเมื่อปีที่ผ่านมา

ที่มา: รอยเตอร์