'Chatter Baby' แอพใหม่ช่วยพ่อแม่เข้าใจทำไมลูกร้อง?

Your browser doesn’t support HTML5

แอพใหม่ช่วยพ่อแม่เข้าใจทำไมลูกร้อง

Your browser doesn’t support HTML5

แอพใหม่ช่วยพ่อแม่เข้าใจทำไมลูกร้อง

สก็อต วิลเลียมสัน (Scott Williamson) ร่ายยาวถึงสาเหตุต่างๆ ที่อาจทำให้ โจลี่ ลูกสาววัยห้าเดือนร้อง วิลเลียมสัน คุณพ่อมือใหม่เรียนรู้อย่างรวดเร็วว่ามีสาเหตุหลายๆ อย่างที่ทำให้ทารกโยเย เเต่การระบุว่าอะไรเป็นต้นเหตุจริงๆ ไม่ง่ายเสมอไป เขากล่าวว่าต้องพยายามเดาว่าอะไรทำให้ลูกร้อง

การคาดเดาสาเหตุต่างๆ ที่ทำให้ทารกโยเย สร้างความอึดอัดรำคาญใจเเก่พ่อเเม่ แต่ปัญหานี้อาจจะหมดไป เพราะขณะนี้ ด็อกเตอร์ อาเรียน่า แอนเดอร์สัน (Dr. Ariana Anderson) นักจิตวิทยาทางประสาทแห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตลอสแองเจลลีส (UCLA) เเละคุณแม่ลูกสี่ ได้พัฒนาแอพที่ช่วยพ่อเเม่หาต้นเหตุที่ทำให้ลูกร้อง เรียกว่า Chatter Baby

ด็อกเตอร์ แอนเดอร์สัน กล่าวว่า ตอนมีลูกคนที่สาม ตนเองพบว่าเสียงร้องของลูกคล้ายมากกับเสียงร้องของลูกอีกสองคน เเละสามารถบอกได้ว่าลูกสาวต้องการอะไรโดยพิจารณาจากเสียงร้องของลูก

แอพมือถือที่พัฒนาขึ้นนี้ง่ายต่อการใช้งานโดยพ่อหรือแม่ เพียงเเค่ถือโทรศัพท์มือถือไว้ใกล้กับตัวลูกเวลาลูกร้อง เเละรอสักครู่เพื่อให้แอพจับเสียงเด็กร้อง เเละอธิบายว่าอะไรน่าจะเป็นสาเหตุให้เด็กร้อง

แอพมือถือนี้มีข้อเสนอถึงสาเหตุที่เป็นไปได้เพียงสามอย่าง คือ ความหิว ความหงุดหงิดรำคาญใจ เเละความเจ็บปวด แต่ผู้พัฒนาแอพมือถือนี้กล่าวว่านี่เป็นเพียงเเค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น เป้าหมายสูงสุดคือการปรับให้โปรแกรมแอพนี้สามารถเข้าใจอารมณ์แบบต่างๆ ของเด็กได้หลากหลายขึ้น

ด็อกเตอร์ แอนเดอร์สัน กล่าวว่า ผู้ใช้สามารถปรับให้แอพ Chatter Baby เรียนรู้เกี่ยวกับลูกของตนได้ โดยอาจจะเลือกสาเหตุของการร้องไห้อื่นๆ อาทิ มีลมในท้อง กลัว เบื่อ ป่วย เหนื่อย เเละอื่นๆ

ด็อกเตอร์ แอนเดอร์สัน ย้ำว่าแอพที่เธอคิดค้นขึ้นนี้ใช้งานได้กับพ่อเเม่มือใหม่เท่านั้น เเละยังเป็นอุปกรณ์ช่วยคนที่มีปัญหาด้านการได้ยินอีกด้วย และในอนาคต อาจจะช่วยระบุอาการของความบกพร่องทางพัฒนาการประสาทสมองในทารก อาทิ ออทิสซึ่ม และความบกพร่องด้านพัฒนาการอื่นๆ

เธอกล่าวว่าต้องการให้เด็กได้รับการวินิจฉัยแต่เนิ่นๆ ไม่อยากให้รอจนลูกเริ่มเข้าเรียนในระดับก่อนปฐมวัย หรือเมื่ออายุ 5 ขวบ

สำหรับหลายๆ คน เสียงเด็กเล็กร้องอาจจะฟังดูเหมือนกันไปหมด เเต่ ด็อกเตอร์ แอนเดอร์สัน กล่าวว่า ลักษณะการร้องของเด็กไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับเเต่ละเชื้อชาติ เธอหวังว่าจะสามารถสร้างฐานข้อมูลเกี่ยวกับเสียงร้องของทารกเเละเสียงต่างๆ ของเด็กเล็ก เพื่อช่วยพ่อเเม่มือใหม่ทั่วโลกเข้าใจทารกมากขึ้น

เพราะหากทารกได้รับการตอบสนองอย่างถูกต้องรวดเร็วขึ้นเท่าใด ทารกก็จะหยุดร้องเร็วขึ้นเท่านั้น

(เรียบเรียงโดยทักษิณา ข่ายแก้ว วีโอเอภาคภาษาไทยกรุงวอชิงตัน)