ทันตแพทย์อเมริกันผู้สังหารสิงโต Cecil ให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรกและเตรียมกลับทำงานที่คลินิก

Protestors gather outside Dr. Walter James Palmer's dental office in Bloomington, Minn., Wednesday, July 29, 2015.

เขาบอกว่าตนรู้สึกหัวใจสลายเมื่อเห็นความเกลียดชังที่คนมีต่อเขา

Your browser doesn’t support HTML5

ทันตแพทย์อเมริกันที่สังหารสิงโต Cecil ให้สัมภาษณ์สื่อครั้งแรก

ทันตแพทย์ชาวอเมริกันผู้สังหารสิงโต Cecil แห่งซิมบับเวจนเป็นข่าวสะเทือนความรู้สึกคนทั่วโลก ให้สัมภาษณ์สื่อเป็นครั้งแรกต่อสำนักข่าว Associated Press และหนังสือพิมพ์ Minneapolis Star ของสหรัฐฯ

Zimbabwe Lion Killed

เขากล่าวว่าหากตนรู้ว่า Cecil เป็นสิงโตที่มีความสำคัญทางจิตใจต่อคนทั่วไป และเป็นส่วนหนึ่งของงานวิจัยโดยมหาวิทยาลัย Oxford ตนจะไม่ทีทางทำเช่นนั้น

ชาวอเมริกันผู้นี้บอกอีกว่าไม่มีใครที่อยู่ในกลุ่มนักล่าที่ไปด้วยทราบว่าสิงโตตัวดังกล่าวคือ Cecil

ทันตแพทย์ Walter Palmer วัย 55 ปีผู้นี้ ตกเป็นข่าวใหญ่ หลังจากที่เขายิงสังหารสิงโต Cecil ใกล้อุทยานแห่งชาติวังเก้ของซิมบับเว ความโกรธเคืองที่เกิดขึ้นจากสังคมทำให้มีคนไปประท้วงหน้าคลินิกทันตกรรมและที่บ้านของเขาของเขาที่รัฐมิเนโซต้า จนเขาต้องปิดร้านชั่วคราว

เจ้าตัวบอกว่าจะเริ่มกลับไปทำงานวันอังคารนี้

Hayley Hoppe (R) sits with her daughters Piper, 10, (L) and Paisley, 8, (C), in front of the doorway of River Bluff Dental clinic in protest against the killing of a famous lion in Zimbabwe, in Bloomington, Minnesota July 29, 2015. A Zimbabwean court on W

เขาบอกว่าตนรู้สึกหัวใจสลายเมื่อเห็นความเกลียดชังที่คนมีต่อเขา และบอกว่า เหตุการณ์นี้กระทบต่อลูกสาวและภรรยาเขาด้วย

เขาบอกว่าตนไม่เข้าใจว่าทำไมคนเราจึงไม่แสดงมนุษยธรรมต่อคนด้วยกันอย่างที่แสดงต่อสัตว์ในกรณีนี้

สำหรับด้านกฎหมาย เขากล่าวว่าตนยิงสังหารสิงโต Cecil ด้วยธนู ไม่ใช่กระสุนปืนตามที่ตกเป็นข่าว และการยิงเกิดขึ้นนอกเขตอุทยานแห่งชาติ

ทันตแพทย์ Palmer ยืนยันตามที่เคยออกแถลงการณ์ว่าตนไม่ได้ทำผิดกฎหมาย และตอนนี้เขายังไม่ได้รับแจ้งว่าจะถูกดำเนินคดีแต่อย่างใด

กระแสการต่อต้านการล่าสัตว์เกิดขึ้นรุนแรงทั่วโลกหลังจากการสังหาร Cecil สายการบินหลายแห่งประกาศว่าจะไม่รับขนส่งศพของสัตว์ที่ได้จากการล่าที่ผู้สังหารเปรียบเหมือนเป็นถ้วยรางวัล

อย่างไรก็ตาม หลายประเทศในทวีปแอฟริกากล่าวว่ามาตรการดังกล่าวไม่แบ่งแยกระหว่างการค้าสัตว์ที่ถูกล่าอย่างถูกกฎหมายกับที่ผิดกฎหมาย และเกรงว่าแนวทางที่เด็ดขาดจะกระทบการอนุรักษ์ในที่สุดเพราะเงินสนับสนุนการอนุรักษ์นั้นมาจากรายได้จากนักท่องเที่ยวที่มาล่าสัตว์ในแอฟริกาด้วย


(รายงานโดยห้องข่าววีโอเอ / เรียบเรียงโดยรัตพล อ่อนสนิท)