Your browser doesn’t support HTML5
ผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายเรียกร้องให้ชาวต่างชาติที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานในสหรัฐฯ เป็นการชั่วคราวแต่ได้รับเงินช่วยเหลือโควิด-19 จากรัฐบาล นำส่งเงินก้อนดังกล่าวคืน เนื่องจากเป็นการส่งมอบที่ผิดพลาด
แจเนท ฮอลซ์แบลทท์ ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายกฎหมาย จาก Urban-Brookings Tax Policy Center บอกกับผู้สื่อข่าว วีโอเอ ว่า มีชาวต่างชาติหลายพันคนที่มีสิทธิ์ทำงานในสหรัฐฯ ชั่วคราวได้รับการโอนเงินเข้าบัญชีหรือเช็คมูลค่า 1,200 ดอลลาร์ ซึ่งมีลายเซ็นของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และหน่วยงานสรรพากรสหรัฐฯ หรือ Internal Revenue Service (IRS) ส่งออกมาตั้งแต่เมื่อหลายเดือนก่อน โดยมีรายงานข่าวว่า บางรายได้ใช้เงินก้อนดังกล่าวไปแล้ว ขณะที่บางรายพยายามตรวจสอบว่า สถานะของวีซ่าหรือเอกสารเข้าเมืองของตนจะไม่มีปัญหาหากรับเงินช่วยเหลือก้อนนี้มา
ฮอลซ์แบลทท์ อธิบายว่า ชาวต่างชาติส่วนใหญ่ต้องใช้แบบฟอร์ม 1040-NR ซึ่งหมายถึงผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้อยู่อาศัยในสหรัฐฯ หรือ nonresident ในการยื่นภาษีเงินได้จากการทำงานในสหรัฐฯ แต่มีชาวต่างชาติจำนวนไม่น้อยที่ใช้ฟอร์ม 1040 แบบปกติซึ่งทำให้กลายมาเป็นผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลภายใต้กฎหมาย CARES Act ที่ผ่านออกมาใช้งานเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
รายงานข่าวระบุว่า มีผู้ได้รับเงินช่วยเหลือโควิด-19 จากรัฐบาลจำนวนมาก เป็นนักศึกษาต่างชาติและทำงานรับค่าจ้างชั่วคราวที่ยื่นแบบฟอร์มภาษีผิดประเภท
แม้ขณะนี้ IRS ยังไม่ได้ออกคำแนะนำอย่างเป็นทางการว่า ชาวต่างชาติที่ไม่มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือจะสามารถส่งคืนเงินได้อย่างไร เว็บไซต์ของหน่วยงานนี้มีข้อมูลเกี่ยวกับวิธีที่ผู้เสียภาษีสามารถส่งคืน “เงินที่ได้รับมาโดยผิดพลาด” ไว้ให้ศึกษาอยู่
ทั้งนี้ โรเบิร์ต จอห์นสัน นักกฎหมายด้านกระบวนการตรวจคนเข้าเมือง ในนครแอตแลนตา เตือนว่า ผู้ที่ไม่มีสิทธิ์รับเงินช่วยเหลือและไม่ส่งเงินคืนอาจถูกรัฐบาลสหรัฐฯ ฟ้องในข้อหาฉ้อโกงได้ แม้ว่าความเสี่ยงด้านนี้จะมีไม่มาก เนื่องจากไม่มีใครสามารถยืนยันว่า รัฐบาลจะตรวจสอบว่าผู้ใดไม่มีสิทธิ์ดังกล่าวจริง แต่หากเกิดการฟ้องร้องกันจริง สถานภาพทางกฎหมายเพื่ออยู่อาศัยและทำงานของผู้ที่ถูกฟ้องอาจมีปัญหาได้