ไขข้อข้องใจ: ทรัมป์ "อภัยโทษตัวเอง" ได้หรือไม่ ก่อนพ้นตำแหน่ง

An image on a monitor shows U.S. President Donald Trump speaking during in a video posted on the White House Twitter feed, in the empty Brady Briefing Room of the White House in Washington, Jan. 13, 2021.

Your browser doesn’t support HTML5

Trump Pardon


คำถามที่ว่า หากใครเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ แล้วเขาจะสามารถออกคำสั่ง "อภัยโทษตนเองได้หรือไม่" เป็นข้อถกเถียกทางวิชาการมานาน

แต่ปัจจุบันมีคนกล่าวถึงเรื่องนี้ในวงกว้างมากขึ้น หลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ถูกกล่าวหาและถูกกดดันให้รับผิดชอบ ต่อกรณีม็อบผู้สนับสนุนเขาบุกยึดรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม ขณะที่สภากำลังรับรองผลการเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่ทรัมป์แพ้ต่อโจ ไบเดนคู่เเข่ง จากพรรคเดโมเเครต

เมื่อวานนี้สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่เดโมเเครตคุมเสียงข้างมากอยู่ ลงมติสนับสนุนขอถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์จากกรณีม็อบบุกรัฐสภา ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีผู้เสียชีวิตห้าคน ผู้นำสหรัฐฯ ถูกกล่าวหาว่าปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรง ขณะที่เขากล่าวว่าการเดินหน้าถอดถอนเขาเป็นเรื่อง "น่าขัน" และว่า "เป็นการล่าแม่มดอย่างต่อเนื่อง" ของฝ่ายเดโมเเครต

ทั้งนี้ ต้องดูว่าวุฒิสภาจะลงมติอย่างไรในลำดับถัดไป

แม้ประเด็น "ออกคำสั่งอภัยโทษตนเอง" จะฟังดูผิวเผินว่าน่าจะดีต่อทรัมป์ แต่มีรายงานข่าวว่า ที่ปรึกษาของประธานาธิบดีทรัมป์บางรายไม่ต้องการให้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำเช่นนั้น

ประการเเรกอาจถูกมองได้ว่าเป็นการยอมรับว่าเกิดการกระทำผิดจริง และประการที่สอง ฝ่ายของว่าที่ประธานาธิบดีไบเดนอาจท้าทายความถูกต้องทางกฎหมายของการอภัยโทษ และนำไปสู่การสอบสวนเพื่อตั้งข้อหาโดนัลด์ ทรัมป์

Speaker of the House Nancy Pelosi, D-Calif., gavels in the final vote of the impeachment of President Donald Trump, for his role in inciting an angry mob to storm the Congress last week, at the Capitol in Washington, Wednesday, Jan. 13, 2021. (AP…

สำหรับคำถามว่า โดยทั่วไปแล้วประธานาธิบดีสหรัฐฯ สามารถอภัยโทษตนเองได้หรือไม่?

เรื่องนี้สามารถอ้างอิงได้จากข้อที่สองของรัฐธรรมนูญอเมริกัน ที่ให้อำนาจประธานาธิบดี "ยกเลิก ชะลอ หรืออภัยโทษ การกระทำผิดใดที่มีต่อประเทศสหรัฐฯ ยกเว้นแต่กรณีของการถอดถอนออกจากตำแหน่งผ่านสภา (impeachment)"

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า เนื้อหาของรัฐธรรมนูญเรื่องนี้กว้างมากและเปิดให้ตีความได้หลายอย่าง ดังนั้นหาก ประธานาธิบดีออกคำสั่งอภัยโทษตนเอง ก็น่าจะนำไปสู่การท้าทายในชั้นศาล

เจฟฟรีย์ เคราช์ ศาสตราจารย์ด้านนิติศาสตร์จาก American University กล่าวว่าไม่มีผู้นำสหรัฐฯในอดีตคนใดที่อภัยโทษตนเอง ดังนั้นจึงไม่มีกรณีที่เกิดขึ้นจริงที่ใช้เป็นบรรทัดฐานได้

นักวิชาการผู้นี้ที่เขียนหนังสือเรื่องอำนาจอภัยโทษของประธานาธิบดีโดยเฉพาะ กล่าวว่า แม้ประธานาธิบดี ริดชาร์ด นิกสัน จะเคยพิจารณาว่าจะอภัยโทษตนเองหรือไม่ แต่เขาก็มิได้ทำเช่นนั้นจริง

ผู้ที่ว่าประธานาธิบดีสามารถทำเช่นนั้นได้ เชื่อว่า เนื่องจากผู้นำสหรัฐฯมีอำนาจตามปกติที่จะออกคำสั่งอภัยโทษคดีอาญาต่างๆ ได้อยู่แล้ว อำนาจนี้จึงน่าจะครอบคลุมคดีอาญาใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับตนเอง

แต่ผู้ที่ไม่เห็นด้วย เช่นศาสตราจาร์กฎหมายสตีฟ มัลรอยแห่ง University of Memphis คิดว่า "การอภัยโทษ" เป็นเรื่องที่มีผู้ให้และผู้รับ หมายถึงต้องมีบุคคลสองฝ่าย ดังนั้นการ "อภัยโทษตนเอง" ซึ่งบุคคลเดียวกันเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ ไม่น่าเป็นไปตามหลักกฎหมาย

ศาสตราจารย์มัลรอยกล่าวด้วยว่ากฎหมายอเมริกันซึ่งมีรากฐานจากกฎหมายอังกฤษ ควรยึดตามหลักเกณฑ์ที่ว่า ไม่มีใครควรเป็นผู้พิพิกษาให้กับตนเอง

หลักเกณฑ์ดังกล่างก็เคยถูกใช้เป็นเกณฑ์เมื่อ 47 ปีก่อนที่กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯศึกษาความถูกต้องทางกฎหมายว่าด้วยการอภัยโทษตนเอง

FILE - The word "Impeachment" as it is written in Article II of the U.S. Constitution, is seen on display in the Rotunda for the Charters of Freedom at the National Archives Museum in Washington.

อีกคำถามที่ตามมาคือ เนื้อหาสาระของคำสั่งอภัยโทษตนเองจะเป็นอย่างไร?

ตามปกติประธานาธิบดีจะระบุชัดว่าต้องการอภัยโทษบุคคลจากข้อหาใด แต่สำหรับการอภัยโทษตนเอง นักวิชาการกล่าวว่า ประธานาธิบดีน่าจะออกคำสั่งให้ตนพ้นผิด "ในทุกกรณีโดยสมบูรณ์อย่างไม่มีเงื่อนไข" หรือ "อภัยโทษแบบปูพรม"

ศาสตราจารย์วิชากฎหมาย เเคไรลิน มาลา คอร์บินแห่ง University of Miami กล่าวถึงกรณีศึกษาที่ใกล้เคียงกันเมื่อครั้งที่ประธานาธิบดีนิกสัน ลาออกและเปิดทางให้รองประธานาธิบดี เจอรัล ฟอร์ดเป็นผู้นำประเทศต่อจากเขา และเขาก็ได้รับการอภัยโทษจากประธานาธิบดี ฟอร์ดในเวลาต่อมา

ในครั้งนั้น คำสั่งอภัยโทษมีลักษณะ "อภัยโทษแบบปูพรม"

และจะมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่า หากเกิดการอภัยโทษตนเองจริง จะมีการถูกท้าทายทางกฎหมาย?

ตามปกติ เมื่อประธานาธิบดีใช้อำนาจอภัยโทษผู้อื่น การให้พ้นโทษถือว่ามีผลสิ้นสุด ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้

แต่การให้อภัยตนเองอาจนำไปสู่การฟ้องร้องต่อไปได้

เป็นที่ทราบกันว่า ว่าที่ประธานาธิบดีไบเดน ไม่มีความประสงค์ที่จะให้กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ดำเนินการสอบสวนเพื่อเอาผิดต่อประธานาธิบดีทรัมป์ เพื่อเขาพ้นตำแหน่ง

อย่างไรก็ตาม หากทรัมป์อภัยโทษตนเอง ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน กรณีดังกล่าวก็อาจจะเปิดทางให้มีตีความว่ารัฐธรรมนูญอเมริกันอนุญาตให้ทำเช่นนั้นได้เหรือไม่

ส่วนหนึ่งของกระบวนการนี้อาจนำไปสู่การพิจารณาดำเนินการตรวจสอบว่าทรัมป์ มีความผิดที่สามารถถูกตั้งข้อหาได้หรือไม่

และถ้าเป็นเช่นนั้นจริง กรณีที่ว่านี้ก็น่าถูกพิจาณาโดยศาลสูงสุดของสหรัฐฯ​