เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศให้อภัยโทษต่ออดีตที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ พลโทไมเคิล ฟลินน์ ผู้ยอมรับผิดเมื่อปี ค.ศ. 2017 ว่าได้กล่าวเท็จต่อเจ้าหน้าที่สืบสวนของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ เกี่ยวกับการติดต่อกับทูตรัสเซีย
ถึงกระนั้น ผลสำรวจของสถาบันวิจัยพิว (Pew Research Center) ซึ่งรวบรวมข้อมูลจากกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ ระบุว่าประธานาธิบดีทรัมป์เป็นผู้นำสหรัฐฯ ที่ใช้อำนาจในการให้อภัยโทษและลดโทษน้อยที่สุดเมื่อเทียบกับประธานาธิบดีคนก่อน ๆ ในช่วงหนึ่งร้อยปีที่ผ่านมา
รายงานระบุว่า ตลอดเวลาสี่ปีที่อยู่ในตำแหน่ง ปธน.ทรัมป์ ได้ให้อภัยโทษ 29 ครั้ง และลดโทษ 16 ครั้ง ขณะที่อดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ให้อภัยโทษ 212 ครั้ง และลดโทษ 1,715 ครั้ง ระหว่างเวลาแปดปีที่อยู่ในตำแหน่ง ส่วนอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช ดับเบิลยู บุช ให้อภัยโทษ 74 ครั้ง ลดโทษ 3 ครั้ง ในช่วงเวลาสี่ปี
ในสหรัฐฯ ผู้กระทำผิดสามารถขอลดหย่อนโทษต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ในสองรูปแบบ คือการอภัยโทษ (ยกเลิกการลงโทษที่เหลืออยู่ทั้งหมด ซึ่งอาจรวมถึงผลที่จะตามมาในอนาคตสำหรับการกระทำความผิดนั้น) กับการลดโทษ (ยกโทษให้บางส่วนหรือทั้งหมด)
นักวิเคราะห์เชื่อว่า แม้ปธน.ทรัมป์ ได้ให้อภัยโทษและลดโทษน้อยกว่าผู้นำคนก่อน ๆ แต่เชื่อว่าจำนวนการให้อภัยโทษและลดโทษจะเพิ่มขึ้นอย่างมากในช่วงเวลาอีกสองเดือนที่เหลืออยู่ในตำแหน่ง
สำหรับพลโท ไมเคิล ฟลินน์ ถูกตั้งข้อหาร้ายแรงจากการกล่าวเท็จต่อเรื่องการพูดคุยสองครั้งระหว่างเขากับทูตรัสเซียประจำสหรัฐฯ นายเซอร์เกย์ คิสลิเอ็ค (Sergey Kislyak) ที่มีประเด็นหลักคือเรื่องมาตรการลงโทษที่สหรัฐฯ กำลังมีต่อรัสเซียในเวลานั้น ก่อนการขึ้นรับตำแหน่งอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีทรัมป์เมื่อสี่ปีที่แล้ว โดยความผิดนี้มีโทษจำคุกสูงสุด 5 ปี
เมื่อวันพุธ ปธน.ทรัมป์ ทวีตข้อความอภัยโทษให้กับพลโทฟลินน์ และว่า "ขอแสดงความยินดีกับ พลโทฟลินน์และครอบครัว ที่จะได้มีงานฉลองขอบคุณพระเจ้าที่วิเศษ"
