นักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยทั่วสหรัฐฯ มีแนวคิดเสรีนิยมมากกว่านักศึกษาชาย

FILE - Brooklyn College students walk across campus for class, in Brooklyn, New York, Feb. 1, 2017.

Your browser doesn’t support HTML5

นักศึกษาหญิงมหาวิทยาลัยปีหนึ่งทั่วสหรัฐฯ เสรีนิยมมากขึ้น

ผลการศึกษาที่จัดทำโดยสถาบันวิจัยอุดมศึกษา หรือสถาบัน HERI ที่มหาวิทยาลัยเเคลิฟอร์เนียในลอสเองเจลลีส หรือ UCLA เริ่มต้นครั้งเรกเมื่อปี ค.ศ. 1966 หรือ 51 ปีที่เเล้ว เป็นการสำรวจความคิดเห็นทางการเมืองของนักศึกษามหาวิทยาลัยและวิทยาลัยต่างๆ ที่เรียนนานสี่ปีทั่วประเทศ

และเมื่อปีที่แล้ว การศึกษานี้ได้เก็บข้อมูลจากนักศึกษาเกือบ 138,000 คน จากมหาวิทยาลัยเเละวิทยาลัยทั้งหมด 184 เเห่ง

สถาบัน HERI ได้ถามนักศึกษามหาวิทยาลัยปีที่หนึ่งว่า มีความเชื่อทางการเมืองขั้วใด อาทิ เสรีนิยม ซ้ายจัด อนุรักษ์นิยม ขวาจัด หรือ สายกลาง และเท่าที่ผ่านมาในอดีต นักศึกษาส่วนใหญ่บอกว่าตนเองเป็นพวกสายกลาง

เเต่ผลการศึกษาเมื่อปีที่เเล้ว ตอนที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งได้รับชัยชนะเหนือนางฮิลลารี่ คลินตั้น พบว่า 41 เปอร์เซ็นต์ของนักศึกษาหญิงในการสำรวจบอกว่ามีความคิดทางการเมืองเเบบเสรีนิยมและซ้ายจัด

ตัวเลขนี้เป็นตัวเลขนักศึกษาหญิงจำนวนสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ที่หัวเอียงซ้าย

สถาบัน HERI ชี้ว่าความเเตกต่างนี้ไม่เคยชัดเจนเท่านี้มาก่อน และการศึกษานี้พบว่า นักศึกษาชายปีหนึ่งประมาณ 27 เปอร์เซ็นต์ กับนักศึกษาหญิงปีหนึ่ง 18 เปอร์เซ็นต์ บอกว่านิยมขวา

เควิน เอเเกน ศาสตราจารย์ด้านการศึกษาที่มหาวิทยาลัย UCLA และผู้อำนวยการจัดการของสถาบัน HERI กล่าวว่ามีนักศึกษาชายเสรีนิยมมากกว่านักศึกษาหญิงในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1960 และ 1970 และจำนวนนักศึกษาหญิงที่มองว่าตนเองเป็นเสรีนิยมได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างคงที่ตั้งเเต่คริสต์ทศวรรษที่ 1960

ศาสตราจารย์เอแกน กล่าวว่า คนหนุ่มสาวสนับสนุนพรรคการเมืองใดการเมืองหนึ่งขึ้นอยู่กับผู้นำของพรรคการเมืองนั้น ยกตัวอย่าง เมื่อนายโรนัลด์ เรเเกน จากพรรครีพับลิกันที่มีแนวคิดอนุรักษ์นิยมเป็นประธานาธิบดีในช่วงคริสต์ทศวรรษที่ 1980 นักศึกษามหาวิทยาลัยปีหนึ่งที่มีเเนวคิดเสรีนิยมลดลงอย่างมาก

ศาสตราจารย์เอแกน มองว่า ผู้หญิงอายุน้อยจำนวนมากชอบนางฮิลลารี่ คลินตัน เพราะเป็นผู้หญิงเเละเป็นตัวเเทนพรรคเดโมเครตที่มีแนวคิดเสรีนิยม และเป็นไปได้ที่พฤติกรรมและคำพูดเกี่ยวกับผู้หญิงทางลบของนายทรัมป์ น่าจะมีส่วนทำให้ผู้หญิงกลายเป็นเสรีนิยมมากขึ้น

นีชา รูเธอร์ นักศึกษาปีหนึ่งมหาวิทยาลัยวิสคอนซิน บอกว่าตนเองมีความคิดเห็นเอียงซ้าย ไม่ได้เป็นเพราะว่าตัวเเทนพรรคเดโมเครตเป็นผู้หญิง เธอบอกว่าผู้หญิงเลือกเสรีนิยมเพราะเป็นเเนวคิดที่เเก้ปัญหาที่กระทบต่อผู้หญิง อาทิ ค่าจ้างที่เท่าเทียมกับผู้ชาย ตลอดจนกฏหมายที่กระทบต่อสุขภาพการเจริญพันธุ์

ด้านฮันส์ นูเอล ศาสตราจารย์ด้านการปกครองแห่งมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ในกรุงวอชิงตันกล่าวว่าผู้หญิงส่วนมากในอเมริกาไม่ได้เป็นเสรีนิยม และชี้ว่า 61 เปอร์เซ็นต์ของหญิงอเมริกันผิวขาวที่ไม่มีปริญญาตรีลงคะเเนนเสียงเลือกทรัมป์ แต่ผู้หญิงที่อายุน้อยกว่าที่นิยมสิทธิสตรีต้องการสนับสนุนนักการเมืองที่เรียกร้องสิทธิสตรี

นูเอล นักวิชาการในมหาวิทยาลัยจอร์ทาวน์ในกรุงวอชิงตัน กล่าวว่า สิทธิทางการเมิองในสหรัฐฯ ได้เอียงไปทางอนุรักษ์นิยมมากขึ้น โดยเฉพาะในประเด็นด้านการเข้าถึงบริการด้านการคุมกำเนิด และผู้มีความคิดเอียงซ้ายได้กลายเป็นนักเรียกร้องสิทธิสตรีกันมากขึ้น

เขากล่าวว่า วิทยาลัยและมหาวิทยาลัยในสหรัฐฯ ต่างสนับสนุนความคิดแนวเสรีนิยม และหญิงสาวมักเข้าข้างพรรคการเมืองที่หนุนความคิดของตน

เขากล่าวเสริมว่าที่สำคัญมากที่คนหนุ่มสาวควรจะเเสดงความคิดเห็นทางการเมืองด้วยการไปลงคะเเนนเสียง แต่ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ครั้งล่าสุดที่ผ่านมา มีเพียงครึ่งหนึ่งของคนหนุ่มสาวชาวอเมริกันอายุ 18 - 35 ปีซึ่งถือเป็น 31 เปอร์เซ็นต์ของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในสหรัฐฯ ทั้งหมด ที่ไปเลือกตั้ง

(รายงานโดย Peter Musto / เรียบเรียงโดย ทักษิณา ข่ายเเก้ว)