กษัตริย์นโรดม สีหมุนี แห่งกัมพูชาแสดงความยินดีกับสมาชิกรัฐสภาชุดใหม่ ขอให้เดินหน้าสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจและความเท่าเทียม ก่อนที่คณะรัฐมนตรีชุดใหม่เตรียมเข้าสาบานตนในวันถัดไป
เอพีรายงานว่า พระราชดำรัสดังกล่าวเกิดขึ้นในสมัยประชุมรัฐสภาครั้งแรก ซึ่งเกิดขึ้นหลังพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ชนะการเลือกตั้งอย่างถล่มทลายเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยได้ที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรถึง 120 จาก 125 ที่นั่ง หลังพรรคฝ่ายค้านหลักอย่างพรรคแสงเทียนถูกกีดกันจากการลงแข่งขันในสนามเลือกตั้ง
แม้จะเห็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจสู่คนรุ่นใหม่ภายใต้รัฐบาลชุดใหม่นี้ แต่เอพีก็รายงานด้วยว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือการส่งต่ออำนาจจากผู้ดำรงตำแหน่งจากรุ่นก่อนสู่ลูกหลานหรือเครือญาติของตน ดังที่เห็นจากการส่งต่อตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจากฮุน เซน สู่ ฮุน มาเนต ผู้เป็นบุตรชาย รวมถึงรัฐมนตรีที่ดำรงตำแหน่งสำคัญอีกหลายคน
กษัตริย์นโรดม สีหมุนี ซึ่งเป็นประมุขแห่งรัฐในทางสัญลักษณ์ ตรัสต่อสมาชิกรัฐสภาว่า พระองค์ทรงหวังให้กัมพูชาในสมัยของรัฐสภาชุดใหม่ ที่จะดำรงตำแหน่งไปอีก 5 ปี มีความเติบโตทางเศรษฐกิจ และประชาชนได้รับการคุ้มครองในทางสังคมมากขึ้น
“สมาชิกรัฐสภา ในฐานะตัวแทนแห่งประชาชนชาวกัมพูชา ต้องพยายามในทุกวิถีทาง เพื่อให้มั่นใจว่าประชาชนจะมีชีวิตอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ว่าจะมีความแตกต่างทางความเชื่อศาสนาหรือการศึกษา และได้รับการจ้างงานที่เท่าเทียมกับความสามารถและการศึกษาของพวกเขา” กษัตริย์นโรดม สีหมุนี ตรัสในตอนหนึ่งของพระราชดำรัส
ในวันเดียวกันหลังจากการเปิดสมัยประชุมสภาแล้ว สมาชิกรัฐสภาจะเข้าร่วมพิธีสาบานตนต่อกษัตริย์และพระสงฆ์อีก 2 รูป และในวันอังคาร คณะรัฐบาลใหม่ที่นำโดยฮุน มาเนต จะเข้าพิธีสาบานตนเป็นลำดับต่อไป
สำหรับ ฮุน เซน ที่อยู่ในอำนาจมาเกือบ 4 ทศวรรษ ปัจจุบันมีอายุ 71 ปี และมีการคาดการณ์ว่าเขาจะยังคงมีอิทธิพลทางการเมืองอยู่อีกมาก เพราะเขาจะยังคงดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภาและหัวหน้าพรรค CPP ต่อไป
อดีตนายกฯ กัมพูชากล่าวว่า การลงจากตำแหน่งนั้นยังไม่ใช่จุดจบของเขา และเขาจะอยู่ในตำแหน่งทางการเมืองไปอย่างน้อยจนถึงปี 2033 หากไปถึงจุดนั้น หมายความว่าเขาจะดำรงตำแหน่งทางการเมืองถึงครึ่งศตวรรษ
เอพีรายงานว่า กัมพูชาภายใต้รัฐบาลที่นำโดยฮุน เซน มีพัฒนาการด้านคุณภาพชีวิตที่สูงขึ้นมาก แต่ก็มีช่องว่างความเหลื่อมล้ำระหว่างคนรวยและคนจนสูงขึ้นเช่นกัน
ที่มา: เอพี