Your browser doesn’t support HTML5
กัมพูชาตั้งความหวังที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจของตนที่ถูกกดดันหนักจากวิกฤตการระบาดของโควิด-19 จากการเข้าร่วมเป็นสมาชิกข้อตกลงการค้ากับจีน เกาหลีใต้ และความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (Regional Comprehensive Economic Partnership: RCEP) ซึ่งมีมูลค่าจีดีพีรวมของประเทศสมาชิกทั้งหมดสูงถึง 26.2 ล้านล้านดอลลาร์ และกำลังจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคมนี้แล้ว
นักวิเคราะห์กล่าวว่า รัฐบาลกรุงพนมเปญเร่งสรุปการเจรจาข้อตกลงการค้าต่างๆ อย่างมาก ในช่วงที่มีการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ที่สร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศอย่างหนัก ขณะที่ สหภาพยุโรปตัดสินใจยกเลิกสิทธิประโยชน์ทางการค้าให้กับกัมพูชาเนื่องจากปัญหาด้านการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปกครองในระบอบประชาธิปไตย
ชาย ทอน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนกัมพูชา เปิดเผยว่า มีประชาชนกว่า 6 ล้านคนที่ไม่ได้เป็นลูกจ้างในระบบต้องตกงานสูญเสียรายได้ไประหว่างที่เกิดการระบาดของโควิด-19 และ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ (United Nations Development Programme: UNDP) คาดว่า อัตราความยากจนของกัมพูชามีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นเป็นสองเท่าถึงระดับ 17.6% ของประชาการในประเทศในปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ เศรษฐกิจของกัมพูชามีพัฒนาการเติบโตอย่างรวดเร็วหลังการสิ้นสุดสงครามที่ดำเนินมานานถึง 30 ปี เมื่อปี ค.ศ. 1998 และรัฐบาลกรุงพนมเปญสร้างความสนิทสนมอย่างแนบแน่นกับจีนในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา จนทำให้มูลค่าการค้าระหว่างทั้งสองพุ่งสูงถึงระดับ 8,000 ล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว และมีการคาดว่า ตัวเลขนี้จะเพิ่มเป็น 10,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี ค.ศ. 2023 หลังทั้งสองประเทศลงนามข้อตกลงการค้าเสรีระหว่างกันไปเมื่อเดือนตุลาคม
กัมพูชายังได้ลงตามข้อตกลงการค้าเสรีกับเกาหลีใต้ หลังมูลค่าการค้าระหว่างกันแตะระดับ 880 ล้านดอลลาร์เมื่อปีที่แล้ว โดยภายใต้ข้อตกลงนี้ กัมพูชาจะยกเลิกการเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้า 93.8% ขณะที่ เกาหลีใต้จะยกเลิกภาษีนำเข้าสำหรับ 95.6% ของสินค้าจากกัมพูชา
ในส่วนของ RCEP นั้น ประเทศคู่สัญญาจะยกเลิกภาษีนำเข้าสำหรับสินค้า 90% ที่มาจากประเทศอื่นๆ ที่เป็นสมาชิกในช่วง 20 ปีข้างหน้า ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่า จะเป็นการหนุนความพยายามบูรณาการในระดับภูมิภาค ที่ต่อยอดมาจากโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ภายใต้ข้อริเริ่มหนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative) ของจีน
รายงานข่าวระบุว่า นายกรัฐมนตรี ฮุน เซน ยังเอ่ยปากว่า ตนต้องการจะเดินหน้าเจรจาทำข้อตกลงการค้าเสรีกับรัสเซียด้วย