รัฐแคลิฟอร์เนียวางแผนปรับปรุงระบบน้ำหลังประสบภัยเเล้งมานานสามปี

California Water

ที่พิพิธภัณฑ์ J. Paul Getty ในนครลอสแองเจลิส เจ้าหน้าที่ต้องปิดน้ำพุเพื่อประหยัดน้ำตามนโยบายของรัฐแคลิฟอร์เนีย

ชาวแคลิฟอร์เนียต้องควบคุมการใช้น้ำภายนอกตัวอาคารซึ่งรวมถึงการรดน้ำต้นไม้และสวน หากใครฝ่าฝืนกฏข้อห้ามก็จะถูกปรับตามระเบียบ

คุณ Cherie Shankar ชาวแคลิฟอร์เนียคนหนึ่งที่เข้าร่วมฟังการบรรยายเกี่ยวกับปัญหาการขาดแคลนน้ำและมาตรการที่เกี่ยวข้องโดยผู้อำนวยการสำนักงานน้ำระดับภูมิภาคที่จัดขึ้นโดยกลุ่ม Town Hall Los Angeles เมื่อเร็วๆ นี้ คุณ Shankar บอกว่าฟังแล้ว เกิดความกังวลกับปัญหาภัยแล้งนี้ และว่าถึงเวลาแล้วที่คนแคลิฟอร์เนียต้องปรับวิถีการใช้น้ำเพราะกำลังประสบกับปัญหาภัยแล้งที่ไม่เคยประสบมาก่อนกับภาวะโลกร้อน

ภัยแล้งที่ดำเนินมานานสามปีติดต่อกันส่งผลให้ระดับน้ำในอ่างเก็บน้ำบางเเห่งของรัฐลดลงไปจนเกือบถึงจุดต่ำสุด ปริมาณน้ำเเข็งจากหิมะซึ่งเป็นแหล่งน้ำจืดที่สำคัญของรัฐก็ลดลงเหลือเเค่ 20 เปอร์เซ็นต์ของระดับปกติเท่านั้น ราคาผลผลิตทางการเกษตรในรัฐแคลิฟอร์เนียต่างเพิ่มสูงขึ้น เกษตรกรในรัฐจำเป็นต้องงดเพาะปลูกพืชในบริเวณ Central Valley ที่ปกติมีความอุดมสมบูรณ์เนื่องจากขาดแคลนน้ำ

คุณ Dan Errotabere ผู้ปลูกต้นพิทาชชิโอ้ อัลมอนด์ กระเทียม องุ่นทำไวน์และพืชชนิดอื่นๆ ในที่ดินใกล้กับเมือง Fresno ในรัฐแคลิฟอร์เนียต้องพึ่งน้ำใต้ดินเป็นหลัก เขาสูบน้ำใต้ดินขึ้นมาใช้เองหลังจากทางการรัฐงดการจ่ายน้ำแก่พื้นที่เพาะปลูก เขากล่าวว่าผลกระทบจากการขาดแคลนน้ำต่อภาคการเกษตรรุนแรงมาก เกษตรกรกล่าวโทษว่านี่เป็นผลมาจากนโยบายประหยัดน้ำของรัฐในเขตลุ่มแม่น้ำ Sacramento ที่ไม่ยอมจ่ายน้ำให้แก่เกษตรกรในพื้นที่

ด้านคุณ Doug Parker นักวิเคราะห์นโยบายที่สถาบัน California Institute for Water Resources มหาวิทยาลัย University of California กล่าวว่าระบบน้ำของรัฐไม่สามารถรองรับความต้องการใช้น้ำในรัฐได้ เขากล่าวว่าภาวะอากาศในแคลิฟอร์เนียเปลี่ยนแปลงไป ส่งผลเสียต่อความมั่นคงของแหล่งน้ำในพื้นที่

คุณ Doug Parker ผู้เชี่ยวชาญน้ำกล่าวว่าจากข้อมูลภาวะอากาศที่มีอยู่เชื่อว่ารัฐเเคลิฟอร์เนียจะยังเจอกับภัยเเล้งต่อไปอีกและยังจะประสบกับภาวะฝนตกหนักจนเกิดอุทกภัยอีกด้วย จึงจำเป็นที่ต้องสร้างระบบน้ำที่สามารถรองรับลักษณะการเปลี่ยนแปลงของแหล่งน้ำตามธรรมชาติหลากหลาย

ในเดือนพฤศจิกายนนี้ ชาวแคลิฟอร์เนียที่มีสิทธิ์เลือกตั้งจะต้องควักกระเป๋าตนเองซื้อบอนด์มูลค่า 7 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐที่จะนำไปใช้เป็นในโครงการปรับปรุงระบบการจัดเก็บน้ำของรัฐ

นักวิจารณ์หลายคนชี้ว่าโครงการปรับปรุงระบบน้ำดังกล่าวนี้แพงเกินไปและจะไม่ช่วยแก้ปัญหา แต่คุณ Jeffrey Kighlinger เเห่งสำนักงานน้ำเขตแคลิฟอร์เนียตอนใต้สนับสนุนโครงการนี้ เขาบอกว่าพื้นที่แคลิฟอร์เนียตอนใต้และเขตอื่นๆ ทั่วรัฐจำเป็นต้องใช้น้ำอย่างชาญฉลาดมากขึ้น เขากล่าวว่าในระยะยาว โครงการนี้จะช่วยส่งเสริมให้ทรัพยากรน้ำยั่งยืนเพราะช่วยสร้างแหล่งน้ำขึ้นในท้องถิ่น จะมีระบบกรองน้ำใต้ดินให้สะอาด มีการนำน้ำใช้แล้วไปหมุนเวียนใช้ใหม่

อย่างไรก็ดี นักวิเคราะห์หลายคนชี้ว่ารัฐแคลิฟอร์เนียต้องปรับปรุงระบบน้ำแบบยกเครื่องโดยต้องคำนึงถึงความต้องการใช้น้ำที่เพิ่มมากขึ้นเป็นหลักด้วย

ชาวอเมริกันหลายร้อยครอบครัวประสบปัญหาภัยแล้งในรัฐแคลิฟอร์เนีย