ถึงแม้ปัญหาวิกฤติจากการแพร่พันธุ์และการจับตัวกันเป็นแพของสาหร่ายเซลล์เดียว หรือที่เรียกว่า Algae Blooms ในทะเลสาบ Erie ซึ่งเป็นแหล่งน้ำสำคัญของชาวเมืองโทเลโด้ ในรัฐโอไฮโอ รวมทั้งของคนอเมริกันอีกราว 11 ล้านคนในภาคกลางตอนเหนือของสหรัฐฯ จนถึงขั้นไม่สามารถนำน้ำประปามาดื่มได้นั้นจะผ่านพ้นไปแล้วก็ตาม
แต่นักวิจัยก็ชี้ว่าปัญหาดังกล่าวสามารถพบได้ทั่วโลก และมีสาเหตุมาจากการใช้ปุ๋ยในการเกษตรซึ่งทำให้เกิดการรั่วไหลของสารเคมีฟอสฟอรัสจากปุ๋ยในพื้นดินลงสู่แหล่งน้ำ รวมทั้งจากการจัดการบำบัดน้ำเสียที่ไม่ดี นอกจากนั้นภาวะโลกร้อนซึ่งทำให้เกิดพายุหนักและลมแรงก็มีส่วนทำให้เกิดการชำระล้างผิวดิน และทำให้ฟอสฟอรัสจากดินไหลลงสู่แหล่งน้ำและเพิ่มปัญหาการแพร่พันธุ์ของสาหร่ายเซลเดียวนี้ให้รุนแรงยิ่งขึ้นด้วย
แต่ปัญหานี้จะร้ายแรงมากขึ้นหากการก่อตัวของสาหร่ายเซลล์เดียวในน้ำเป็นประเภทที่สร้างสารพิษ เพราะเรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อผู้ดื่มน้ำหรือแม้กระทั่งผู้ลงไปว่ายน้ำ ทำให้ตับเสียหาย ทำลายระบบประสาท และอาจทำให้ปลาตายได้หากมีแพสาหร่ายนี้มากจนน้ำขาดออกซิเจน นักวิทยาศาสตร์ชี้ด้วยว่าถึงแม้การก่อตัวของแพสาหร่ายดังกล่าวอาจเกิดขึ้นเฉพาะในบางช่วงของปี แต่ก็คาดว่าปัญหานี้คงจะไม่หายไปได้เองภายในอนาคตอันใกล้นี้
