แคลิฟอร์เนียกลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่มีผู้ติดโควิดทะลุ 3 ล้านคน

Chaplain Elias Mena holds the hand of a COVID-19 patient while praying for him at Providence Holy Cross Medical Center in the Mission Hills section of Los Angeles, Jan. 15, 2021.

รัฐแคลิฟอร์เนียกลายเป็นรัฐแรกในสหรัฐฯ ที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเกินหลัก 3 ล้านคน ตามข้อมูลจากมหาวิทยาลัยจอนส์ ฮอพกินส์ ณ วันอังคาร โดยมีผู้ติดเชื้อ 3,015,644 คน จากประชากร 40 ล้านคนในรัฐแคลิฟอร์เนีย และมีผู้เสียชีวิตสะสมในรัฐนี้ 33,724 คน

สำนักข่าว Associated Press รายงานว่า รัฐแคลิฟอร์เนียมีผู้ติดเชื้อ 1 ล้านคนแรกโดยใช้เวลา 292 วัน และ 44 วันสำหรับผู้ติดเชื้อ 1 ล้านคนต่อมา เทียบกับ 30 วันสำหรับการเพิ่มจากระดับ 2 ล้านคนเป็น 3 ล้านคน

ตัวเลขที่เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดนี้เกิดขึ้นในช่วงเดียวกับที่ความพยายามฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนในรัฐแคลิฟอร์เนียประสบอุปสรรคสำคัญ หลังจากที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุขของรัฐบาลแคลิฟอร์เนียแนะนำให้ระงับการใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทโมเดอร์นาชั่วคราว เนื่องจากพบว่าผู้ที่ได้รับวัคซีนบางคนมีอาการแพ้อย่างรุนแรง

ขณะเดียวกัน รัฐบาลของว่าที่ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ที่กำลังจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม เตรียมเปลี่ยนการตัดสินใจของรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะยกเลิกมาตรการห้ามผู้ที่เดินทางมาจากบราซิลและหลายประเทศในยุโรปเข้าประเทศ เริ่มตั้งแต่วันที่ 26 มกราคมนี้

ว่าที่โฆษกทำเนียบขาว เจน ซากี ทวีตข้อความว่า "จากคำแนะนำของคณะผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ ยืนยันว่ารัฐบาลชุดใหม่ไม่มีแผนจะยกเลิกมาตรการห้ามเดินทางเข้าประเทศในวันที่ 26 มกราคม ตามที่รัฐบาลชุดก่อนประกาศไว้แต่อย่างใด และยังจะเพิ่มมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดมากขึ้นสำหรับผู้ที่จะเดินทางมาจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันการระบาดของโควิด-19"

โดยแนวทางใหม่ที่ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐฯ หรือ CDC เตรียมนำมาใช้หลังวันที่ 26 มกราคม คือ ผู้ที่จะเดินทางมากับเครื่องบินที่มุ่งหน้าเข้าสหรัฐฯ ทุกคนจะต้องแสดงหลักฐานว่ามีผลตรวจโควิด-19 เป็นลบ ก่อนที่จะสามารถขึ้นเครื่องบินเพื่อมายังสหรัฐฯ ได้