Your browser doesn’t support HTML5
เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติผู้ดูแลปัญหาการค้ามนุษย์เตือนว่า นักค้ามนุษย์กำลังใช้ประโยชน์จากการระบาดใหญ่ของโควิด-19 มุ่งเป้าต่อแรงงานข้ามชาติที่ตกงานไปจนถึงเยาวชนที่ไม่ได้ไปโรงเรียน และว่าผลกระทบจากเรื่องนี้จะยิ่งทำให้อาชญากรรมดังกล่าวถูกลักลอบทำแบบใต้ดินมากขึ้น
Siobhan Mullaly เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติผู้จัดทำรายงานเรื่องการค้ามนุษย์ ให้ตัวเลขว่า ขณะนี้มีผู้คนทั่วโลกราว 25 ล้านคนที่ตกเป็นเหยื่อของการค้าแรงงานและการค้าทางเพศ และคาดว่าอาจจะมีผู้ตกเป็นเหยื่อของเรื่องนี้มากขึ้นได้เพราะบริการทางสังคมรวมทั้งการดำเนินการทางกฎหมายต่าง ๆ ต้องหยุดชะงักลง เนื่องจากมีการระดมทรัพยากรที่จำเป็นไปใช้ในเรื่องอื่นแทน
ผู้จัดทำรายงานเรื่องการค้ามนุษย์ของสหประชาชาติ บอกกับสำนักข่าวรอยเตอร์ในโอกาสก่อนวันต่อต้านการใช้แรงงานทาส คือวันอาทิตย์ที่ 18 ตุลาคม ว่าผู้ที่ตกอยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงเป็นพิเศษ คือผู้ที่ประกอบอาชีพอยู่ในภาคเศรษฐกิจและการจ้างงานแบบไม่เป็นทางการ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ถึง 2,500 ล้านคน หรือราวกว่า 60% ของกำลังแรงงานทั่วโลก
ตัวอย่างของเรื่องนี้ได้แก่ คนทำงานในภาคการท่องเที่ยวและการผลิตสิ่งทอในประเทศอินเดียจนถึงกัมพูชา ที่ต้องอาศัยเงินกู้นอกระบบเพื่อการยังชีพและตกเป็นเหยื่อของการทำงานแบบหนี้ผูกพัน ซึ่งมีสภาพและเงื่อนไขการทำงานที่เลวร้ายกว่าที่ควรจะเป็น
นอกจากนั้น เจ้าหน้าที่ของสหประชาชาติผู้นี้ยังให้ตัวเลขว่า มีแรงงานข้ามชาติอยู่ถึงราว 164 ล้านคนที่ไม่สามารถเดินทางกลับประเทศหรือได้รับความช่วยเหลือใด ๆ เนื่องจากการปิดพรมแดนจากปัญหาโควิด-19 ทำให้คนงานกลุ่มดังกล่าวมีความอ่อนไหวและสุ่มเสี่ยงต่อการค้ามนุษย์มากขึ้น
นอกจากนั้น เหยื่อของการค้าทางเพศกลุ่มใหม่ยังรวมถึงเด็กและเยาวชนที่ไม่ได้ไปโรงเรียนและใช้เวลามากขึ้นกับกิจกรรมออนไลน์
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารโลกเตือนว่าภาวะความปกติในรูปแบบใหม่หรือ new normal จากโควิด-19 จะทำให้เกิดผู้ยากจนข้นแค้นกลุ่มใหม่อย่างน้อยถึง 115 ล้านคนเฉพาะในปีนี้