ชาวจีน 73% เห็นว่ายังไม่จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ในระบบ 5G

Your browser doesn’t support HTML5

Business News

ความต้องการใช้สัญญาณระบบ 5G ในประเทศจีนในขณะนี้มีน้อยกว่าที่คาดไว้ เป็นผลให้ China Unicom หนึ่งในสามบริษัทที่ให้บริการดังกล่าว ตัดสินใจตั้งค่าให้สถานีส่งสัญญาณ 5G ของตนในจังหวัดเหอหนาน อยู่ใน sleep mode ระหว่างเวลา 21.00 น. ถึง 9.00 น. ของวันรุ่งขึ้น

เมื่อเดือนกันยายนปีที่แล้ว จีนเริ่มใช้โครงข่ายสัญญาณ 5G เชิงพาณิชย์ซึ่งคาดว่าจะเพิ่มความเร็วของการอัพโหลดและดาวน์โหลดข้อมูลและเปิดโอกาสให้กับนวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเอง หรือการผ่าตัดจากระยะไกลได้

อย่างไรก็ตาม หนึ่งปีให้หลัง ปัญหาที่พบในขณะนี้คือการครอบคลุมพื้นที่ของระบบ 5G รวมทั้งค่าใช้จ่ายด้านพลังงานเนื่องจากสัญญาณ 5G อาศัยย่านความถี่ที่สูงกว่าระบบ 4G มาก ดังนั้นรัศมีของสัญญาณจึงไปได้ไกลเพียงราว 100 ถึง 300 เมตรจากสถานีส่งเท่านั้น

นอกจากนั้นค่าใช้จ่ายด้านพลังงานของอุปกรณ์ 5G ยังสูงกว่าระบบ 4G ถึงราวสามเท่าตัวด้วย

ผลการสำรวจในประเทศจีนเมื่อเร็ว ๆ นี้แสดงว่า ในขณะนี้ชาวจีนราว 73% เห็นว่ายังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่ที่สามารถใช้ได้กับระบบ 5G