ธุรกิจ: รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามบริษัทอเมริกันขายชิ้นส่วนให้โทรคมนาคมรายใหญ่จีน "ZTE"

รัสเซียสั่งบล็อคแอพส่งข้อความ "เทเลแกรม" / ธนาคาร UBS คาดจะมีร้านค้าปลีกปิดตัวหลายหมื่นแห่งในช่วง 7 ปีข้างหน้า

Your browser doesn’t support HTML5

รวมข่าวธุรกิจ 4/16/2018

รัฐบาลสหรัฐฯ สั่งห้ามบริษัทอเมริกันขายชิ้นส่วนให้โทรคมนาคมรายใหญ่จีน "ZTE"

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ มีคำสั่งห้ามบริษัทอเมริกันขายชิ้นส่วนอุปกรณ์ต่างๆ รวมทั้งชิพคอมพิวเตอร์ ให้กับบริษัท ZTE Corp ซึ่งเป็นผู้ผลิตอุปกรณ์โทรคมนาคมรายใหญ่ของจีน เป็นเวลา 7 ปี หลังจากบริษัท ZTE ถูกกล่าวหาว่าละเมิดข้อกำหนดเกี่ยวกับมาตรการลงโทษที่สหรัฐฯ มีต่ออิหร่าน ตามรายงานของรอยเตอร์

คำสั่งครั้งนี้ถือเป็นการลงโทษอย่างรุนแรงต่อ ZTE ซึ่งใช้ชิ้นส่วนราว 25 – 30% จากบริษัทอเมริกัน ในอุปกรณ์หลายประเภท รวมทั้งโทรศัพท์มือถือ โดยราคาหุ้นของ ZTE ลดลงอย่างมากในวันจันทร์หลังข่าวนี้เปิดเผยออกมา

เมื่อปีที่แล้ว บริษัท ZTE สารภาพผิดต่อศาลรัฐเท็กซัสเรื่องการละเมิดมาตรการลงโทษของสหรัฐฯ ด้วยการส่งสินค้าและเทคโนโลยีบางส่วนไปยังอิหร่าน และได้จ่ายค่าปรับเป็นมูลค่า 890 ล้านดอลลาร์ ซึ่งอาจเพิ่มเป็น 1200 ล้านดอลลาร์

รัสเซียสั่งบล็อคแอพส่งข้อความ "เทเลแกรม"

รัสเซียเริ่มการใช้มาตรการบล็อกแอพส่งข้อความออนไลน์ เทเลแกรม (Telegram) หลังจากแอพนี้ปฏิเสธที่จะเปิดเผยข้อความที่ใส่รหัสไว้ ให้กับฝ่ายดูแลด้านความปลอดภัยของรัสเซีย

เจ้าหน้าที่ด้านโทรคมนาคมของรัสเซียกล่าวในวันจันทร์ว่า ได้มีคำสั่งไปยังบริษัทผู้ให้บริการด้านโทรคมนาคมในรัสเซียแล้ว เพื่อให้บล็อกแอพ Telegram ทันที หลังจากศาลรัสเซียมีคำตัดสินออกมาเมื่อสัปดาห์ที่แล้วอนุญาตให้รัฐบาลรัสเซียสามารถสั่งห้ามบริการแอพที่ว่านี้ได้

ด้านซีอีโอของ Telegram มีแถลงการณ์ตอบโต้ว่า การตัดสินใจของรัฐบาลรัสเซียที่บล็อคแอพ Telegram ถือว่าขัดกับรัฐธรรมนูญ และทางบริษัทจะต่อสู้เพื่อปกป้องสิทธิในการแสดงความคิดเห็นในรัสเซีย

ปัจจุบัน Telegram คือแอพส่งข้อความที่มีผู้ใช้มากเป็นอันดับ 9 ของโลก ด้วยจำนวนกว่า 200 ล้านคน และได้รับความนิยมอย่างสูงในรัสเซีย เอเชียกลาง และตะวันออกกลาง

ธนาคาร UBS คาดจะมีร้านค้าปลีกปิดตัวหลายหมื่นแห่งในช่วง 7 ปีข้างหน้า

รายงานชิ้นใหม่ของธนาคาร UBS ระบุว่า จะมีร้านค้าปลีกอีกหลายหมื่นแห่งที่ต้องปิดตัวลงในช่วงไม่กี่ปีจากนี้ เนื่องจากผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าออนไลน์มากขึ้น คิดเป็นอัตราส่วนที่มากกว่าจำนวนเครือข่ายร้านขายของเล่น Toy ‘R’ Us ที่เพิ่งปิดตัวไป ถึง 7 เท่า

รายงานของ UBS ประเมินว่า จะมีร้านค้าปลีกปิดตัวระหว่าง 30,000 – 80,000 แห่ง ภายในปี ค.ศ. 2025 เมื่อยอดขายสินค้าออนไลน์มีสัดส่วนถึงระดับ 25% หรือ 1 ใน 4 ของยอดขายสินค้าปลีกทั้งหมด