ธุรกิจ: องค์การแรงงานระหว่างประเทศสนับสนุนให้ 'สตรี' เข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น

ข่าวธุรกิจประจำวันที่ 15 มิถุนายน 2560

ตลาดแรงงานสหรัฐฯ เข้มแข็งขึ้น แต่หนี้บัตรเครดิตขยายตัว

รายงานของกระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ชี้ให้เห็นว่าตลาดแรงงานสหรัฐฯ กำลังเข้มแข็งยิ่งขึ้น หลังจากจำนวนคนที่มาขอรับสวัสดิการการว่างงานลดลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว อยู่ที่ระดับ 237,000 คนทั่วประเทศ

เมื่อวานนี้ ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ เพิ่มประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นอีก 0.25% โดยบอกว่าเป็นเพราะการฟื้นตัวในตลาดแรงงาน ทำให้เศรษฐกิจอเมริกันไม่จำเป็นต้องพึ่งพานโยบายดอกเบี้ยต่ำอีกต่อไป

อย่างไรก็ตาม บริษัทวิจัย WalletHub ระบุว่าหนี้บัตรเครดิตของครัวเรือนในสหรัฐฯ กำลังเพิ่มขึ้น และจะเกินหลัก 1 ล้านล้านดอลลาร์ภายในปีนี้

องค์การแรงงานระหว่างประเทศสนับสนุนให้สตรีเข้าสู่ตลาดแรงงานมากขึ้น

รายงานอีกฉบับหนึ่งขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ หรือ ILO ชี้ว่าการสนับสนุนสตรีให้เข้าสู่ตลาดแรงงานโลก จะช่วยนำเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจโลกได้หลายล้านล้านดอลลาร์ และช่วยเพิ่มรายได้จากภาษีของรัฐบาลประเทศต่างๆ ได้

ข้อมูลของ ILO ชี้ว่า ปัจจุบันมีผู้หญิงทั่วโลกราว 49% ที่อยู่ในตลาดแรงงาน ซึ่งน้อยกว่าผู้ชายเกือบ 27% และคาดว่าตัวเลขนี้จะไม่เปลี่ยนแปลงไปอีกอย่างน้อย 2 ปี

เมื่อเร็วๆ นี้ สมาชิกประเทศกลุ่ม G-20 ได้ตกลงว่าจะลดช่องว่างระหว่างผู้ชายกับผู้หญิงในตลาดแรงงานให้เหลือไม่ถึง 25% ภายในปี ค.ศ. 2025 ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยเพิ่มขนาดเศรษฐกิจโลกได้ราว 5 ล้าน 8 แสนล้านดอลลาร์

รายงาน ILO ยังบอกด้วยว่า ประเทศในแถบแอฟริกาตอนเหนือ เอเชียใต้และตะวันออกกลาง จะได้รับประโยชน์มากที่สุด หากมีสตรีในตลาดแรงงานเกิน 50%

บริษัทก่อสร้างอเมริกันสนับสนุนการออกกายบริหารตอนเช้า

นโยบายให้พนักงานบริษัทออกกายบริหารก่อนเข้างานอาจเป็นเรื่องปกติสำหรับหลายประเทศในเอเชีย แต่ยังถือเป็นเรื่องพิเศษสำหรับบริษัทในประเทศทางตะวันตก โดยเฉพาะบริษัทรับเหมาก่อสร้างในอเมริกา

เป็นเวลาราว 20 ปีมาแล้วที่บริษัท Mortenson Construction ใช้นโยบายให้บรรดาพนักงานซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนงานก่อสร้าง ได้ออกกายบริหารในตอนเช้าก่อนเข้างาน

ผู้บริหารของ Mortenson Construction บอกว่า การออกกายบริหารนี้มีประโยชน์หลายอย่าง รวมถึงการทำให้บรรดาคนงานเหล่านั้นมีสมาธิมากขึ้น ก่อนที่จะต้องไปใช้เครื่องมือหนักหรือเครื่องจักรสำหรับงานอันตรายต่างๆ

บรรดาผู้เชี่ยวชาญต่างสนับสนุนแนวคิดนี้ และชี้ว่าบริษัทอื่นๆ ในสหรัฐฯ ควรนำวิธีกายบริหารนี้มาใช้กับพนักงานของตนอย่างแพร่หลายเช่นกัน