ระบบธนาคารสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เพื่อคุมเงินเฟ้อหลังเศรษฐกิจฟื้นตัว
ระบบธนาคารสหรัฐฯ หรือ Fed ขึ้นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 หลังปัจจัยทางเศรษฐกิจส่งสัญญาณการฟื้นตัวดีและไม่ต้องการการกระตุ้นด้วยนโยบายดอกเบี้ยระดับต่ำในขณะนี้
การขึ้นดอกเบี้ยครั้งนี้ทำให้ระดับดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯ อยู่ในช่วงระหว่าง 1 และ 1.25 เปอร์เซ็นต์
ในช่วงเกือบ 10 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่สหรัฐฯ ประสบวิกฤตเศรษฐกิจ Fed ใช้นโยบายลดดอกเบี้ยเพื่อกระตุ้นความต้องการจับจ่ายและการลงทุน จนกระทั่งตัวเลขทางเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงการฟื้นตัวอย่างชัดเจนในระยะที่ผ่านมา
ปัจจุบันอัตราคนว่างงานลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 4.3 จากที่เคยแตะ 10 เปอร์เซ็นต์ ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ
ระบบธนาคารกลางสหรัฐฯ เชื่อว่าอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจะช่วยป้องกันไม่ให้เงินเฟ้อดีดตัวสูงขึ้นกว่า ร้อยละ 2 ซึ่งถือว่าเป็นระดับที่น่ากังวล
บริษัทไต้หวันที่ผลิตชิ้นส่วนไอโฟนกำลังพิจารณาตั้งโรงงานในสหรัฐฯ
บริษัทไต้หวันที่ผลิตชิ้นส่วนไอโฟนและอุปกรณ์อื่นๆ ของแอปเปิ้ลกำลังพิจารณาตั้งโรงงานในสหรัฐฯ และจ้างงานหลายหมื่นอัตรา
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า บริษัท Foxconn กำลังมองหาโอกาสตั้งโรงงานในรัฐวิสคอนซิน ขณะที่มิชิแกนก็ต้องการจูงใจให้ Foxconn ใช้รัฐของตนเป็นสถานที่สร้างโรงงานเช่นกัน
Foxconn เคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่า จะมีการจ้างงาน 50,000 ตำแหน่งจากโครงการนี้
และประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งเดินทางเยือนเมืองมิลวอกี้ รัฐวิสคอนซิน เมื่อวันอังคาร กล่าวว่าผู้ว่าการรัฐวิสคอนซิน นายสก็อต วอล์คเกอร์ คงจะได้ข่าวดีอีกไม่นาน แต่ประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ได้เอ่ยชื่อว่าบริษัทใดจะมาตั้งโรงงานในรัฐดังกล่าว
กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ ระบุคำท้วงติงสายการบินพุ่ง 70% ในเดือนเมษายน
คำร้องท้วงติงสายการบินโดยผู้โดยสารสำหรับเดือนเมษายน มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 70 หลังจากเกิดเหตุการณ์ซึ่งตกเป็นข่าวหลายกรณีในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการลากผู้โดยสารออกจากเที่ยวบินของสายการบินยูไนเต็ด แอร์ไลนส์
กระทรวงคมนาคมสหรัฐฯ กล่าวว่ามีการยื่นคำร้องต่อกระทรวงจำนวน 1,909 คำร้อง ที่ตำหนิการทำงานของสายการบินในเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 70 เปอร์เซ็นต์จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
ข่าวการปฏิบัติต่อผู้โดยสารสายการบินหลายกรณี ถูกถ่ายไว้โดยโทรศัพท์สมาร์ทโฟนและนำออกมาเผยแพร่ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา จนกระทั่งรัฐสภาสหรัฐฯ จัดให้ผู้บริหารสายการบินต่างๆ ให้ข้อมูลต่อสภา
นครซีแอตเติ้ลจะเก็บภาษีน้ำอัดลมเพื่อนำเงินมาสนับสนุนการเข้าถึงอาหารเพื่อสุขภาพ
สมาชิกสภาของนครซีแอตเติ้ล รัฐวอชิงตัน มีมติ 7 ต่อ 1 อนุมัติกฎหมายที่ให้เก็บภาษีสำหรับเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง ในอัตรา 1.75 เซ็นต์ ต่อปริมาณเครื่องดื่มหนึ่งออนซ์
น้ำอัดลมและเครื่องดื่มให้กำลังงานเกือบทุกประเภทเข้าข่ายถูกเก็บภาษีนี้
ผู้สนับสนุนการขึ้นภาษีนี้เห็นว่าเป็นมาตรการที่เหมาะสมเมื่อพิจารณาว่าร้อยละ 13 ของเยาวชนสหรัฐฯ เป็นโรคอ้วน
เงินส่วนหนึ่งจากภาษีนี้จะถูกนำไปใช้เพิ่มการเข้าถึงอาหารที่ดีต่อสุขภาพสำหรับเด็กๆ เพื่อต่อสู้กับโรคอ้วนซึ่งผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากถือว่าเกิดการระบาดระดับโลก
(รายงานโดย ห้องข่าววีโอเอและสำนักข่าวต่างประเทศ / เรียบเรียงโดย รัตพล อ่อนสนิท)