Your browser doesn’t support HTML5
ผู้พิพากษาในรัฐแคลิฟอร์เนียมีคำสั่งยกเลิกสภาวะการมีผู้พิทักษ์ดูแลทรัพย์สินและการดำเนินชีวิตหรือ Conservatorship สำหรับบริทนีย์ สเปียร์หลังจากที่อดีตนักร้องอเมริกันผู้นี้ต้องถูกควบคุมการตัดสินใจในเรื่องต่างๆ มานานถึงเกือบ 14 ปี
โดยปกติแล้วเมื่อบุคคลใดก็ตามถูกพิจารณาว่ามีความสามารถในการตัดสินใจเรื่องต่าง ๆ อย่างจำกัดหรือลดน้อยลงอย่างมาก ศาลจะสามารถเข้ามาแทรกแซงและตั้งบุคคลอื่นซึ่งอาจเป็นสมาชิกในครอบครัว เพื่อนสนิท หรือบุคคลที่ศาลเห็นว่าเหมาะสมให้ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ดูแลแทนได้
โดยกฎหมายของรัฐแคลิฟอร์เนียระบุว่า การมีคำสั่งให้บุคคลใดต้องอยู่ใต้สภาพการมีผู้พิทักษ์ดูแลหรือ Conservatorship นั้นจะทำได้หากบุคคลดังกล่าวไม่สามารถตัดสินใจได้เองอย่างเหมาะสมเกี่ยวกับความต้องการด้านร่างกาย อย่างเช่น เรื่องสุขภาพ อาหาร เครื่องนุ่งห่ม ที่อยู่อาศัย หรือในกรณีที่บุคคลนั้นไม่สามารถจัดการกับเรื่องการเงินและไม่สามารถป้องกันปัญหาการถูกทุจริตฉ้อโกงได้
ในปี 2007 และ 2008 หลังจากที่บริทนีย์ สเปียร์ คลอดบุตรแล้ว ดูเหมือนเธอจะมีปัญหาทางจิตใจบางอย่างซึ่งเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและมีผู้สื่อข่าวรวมทั้งช่างภาพนับร้อยคนที่คอยติดตามถ่ายภาพเมื่อเธอออกจากบ้าน จนถึงจุดหนึ่งที่บริทนีย์ สเปียร์ ดูจะทนรับไม่ได้และใช้ร่มทุบตีรถของช่างภาพคนหนึ่งรวมทั้งได้โกนศีรษะตัวเองด้วย
ผลก็คือเธอต้องเสียสิทธิ์ในการดูแลลูก และหลังจากที่เธอไม่ยอมส่งลูกซึ่งเธอมีสิทธิ์เยี่ยมกลับคืนให้กับสามี เธอก็ถูกส่งตัวเข้าโรงพยาบาลโรคจิตและศาลในรัฐแคลิฟอร์เนียได้มีคำสั่งให้ตั้งผู้พิทักษ์ดูแลขึ้นมา
SEE ALSO: ‘บริตนีย์ สเปียร์ส’ วอนศาล ขอชีวิตอิสระจากพ่อ
มีรายงานว่าบริทนีย์ สเปียร์ มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้นเกือบ 60 ล้านดอลลาร์ และบิดาของเธอ คือ เจมส์ สเปียร์ ได้รับแต่งตั้งจากศาลให้เป็นผู้ดูแลและตัดสินใจแทนในทุก ๆ เรื่อง ตั้งแต่สิทธิ์ในการเยี่ยมลูกชายวัยรุ่นสองคน สิทธิ์ในการตัดสินใจทางการเงินหรือการทำธุรกิจ สิทธิ์ในการรับการรักษาพยาบาล ซึ่งบริทนีย์ สเปียร์ ได้เปิดเผยเมื่อกลางปีนี้ว่าเธอถูกบังคับให้ต้องรับยาบางอย่างที่เธอไม่ต้องการ รวมทั้งยังต้องใส่อุปกรณ์ช่วยคุมกำเนิดไว้ในมดลูก และเธอก็ไม่สามารถแต่งงานหรือมีบุตรเพิ่มได้ด้วย
โดยปกติแล้ว ภาวะการมีผู้พิทักษ์ดูแลนี้อาจถูกสั่งยกเลิกได้โดยศาลแต่ก็เป็นเรื่องที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยครั้งเพราะสถานการณ์หรือเงื่อนไขซึ่งทำให้ต้องมีการตั้งผู้พิทักษ์ดูแลดังกล่าวมักเป็นเรื่องที่ไม่สามารถย้อนกลับคืน เช่น ในกรณีของผู้ป่วยอัลไซเมอร์หรือผู้ได้รับบาดเจ็บทางสมอง เป็นต้นอย่างไรก็ตาม เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้พิพากษาเบรนดา เพนนี ของศาลในนครลอสแองเจลิส ได้มีคำสั่งยกเลิกภาวะการมีผู้พิทักษ์ดูแลที่ว่านี้
สำหรับกรณีของบริทนีย์ สเปียร์ ทั้งในแง่สาเหตุที่เธอต้องถูกคำสั่งให้มีผู้พิทักษ์ดูแลและการพ้นจากสภาพอาจไม่เหมือนกับกรณีอื่นโดยทั่วไป โดยส่วนหนึ่งแล้วบรรดาแฟนเพลงของเธอก็มีส่วนช่วยรณรงค์เรื่องนี้ด้วย เพราะตั้งแต่ที่เริ่มมีคำสั่งเมื่อราว 14 ปีที่แล้วสมาชิกแฟนคลับของเธอบางคนไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้และได้เริ่มการรณรงค์ผ่านทาง #FreeBritney เพราะเชื่อว่า บริทนีย์ สเปียร์ ถูกบังคับให้ต้องรับการบำบัดทางจิตโดยฝืนความต้องการของเธอเอง
หลังจากนั้นบรรดาแฟนเพลงของบริทนีย์ สเปียร์ ได้นำหลักฐานบางอย่างที่แสดงถึงความมีสติสัมปชัญญะของเธอออกเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดียและได้ไปประท้วงที่หน้าศาลทุกครั้งเมื่อเธอต้องไปรายงานตัว
เมื่อผู้พิพากษาในรัฐแคลิฟอร์เนียมีคำสั่งยกเลิกการมีผู้พิทักษ์ดูแลสำหรับบริทนีย์ สเปียร์ดังกล่าว อดีตศิลปินเพลงป๊อปของสหรัฐฯ ผู้นี้ได้กล่าวขอบคุณบรรดาแฟน ๆ ที่ช่วยให้กำลังใจเพราะไม่เชื่อว่าเธอเสียสติไป
แต่ขณะที่เธอได้รับอำนาจในการตัดสินใจทั้งเรื่องส่วนตัวและเรื่องการเงินกลับคืนมาจากกระบวนการทางกฎหมายเรื่องหนึ่งซึ่งสิ้นสุดลง ก็ดูเหมือนว่ากระบวนทางกระบวนการทางกฎหมายอีกด้านอาจกำลังจะเริ่มขึ้น เพราะแมทธิว โรเซนกาตทนายความของบริทนีย์ สเปียร์ กล่าวว่า ตนจะขอให้มีการสอบสวนเจมส์ สเปียร์ ผู้เป็นบิดา ที่อยู่ในฐานะผู้พิทักษ์ดูแลในช่วง 14 ปีที่ผ่านมา
และอาจมีการฟ้องร้องคดีทางแพ่งรวมทั้งอาจมีการดำเนินการทางอาญาเพื่อเอาผิดกับบิดาของบริทนีย์ ซึ่งทำให้เธอต้องตกอยู่ในฐานะที่ว่านี้เป็นเวลากว่า 10 ปี ด้วย
- ที่มา: AP