หลังจากผ่านพ้น 13 ปี ที่บริตนีย์ สเปียร์ส ซูเปอร์สตาร์หญิงชาวอเมริกัน อยู่ภายใต้การพิทักษ์ของพ่อบังเกิดเกล้า ที่เข้าควบคุมการเงินการงานและชีวิตของเธอ ล่าสุด นักร้องหญิงขวัญใจในตำนานวัย 39 ปี ได้เปิดปากต่อศาลเป็นครั้งแรก วอนให้ศาลพิจารณายุติการเป็นผู้พิทักษ์ของบิดาซึ่งทำร้ายชีวิตของเธอและทำกับเธอเหมือนกับเป็นทาส
บริตนีย์ สเปียร์ส ซูเปอร์สตาร์หญิงชาวอเมริกัน เจ้าของเพลงดังมากมายนับไม่ถ้วน ทั้ง Toxic, Lucky และ Oops! I did it again ได้ให้การต่อศาลเป็นครั้งแรก ในกรณีที่เธอร้องต่อศาลขอถอดถอน นายเจมส์ สเปียร์ส พ่อของเธอจากการเป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สิน และชีวิตของเธอ ซึ่งเขาทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ของเธอมาร่วม 13 ปี
ส่วนหนึ่งในถ้อยคำให้การต่อศาลในนครลอสแองเจลิสของบริตนีย์ ระบุว่า ความเป็นผู้พิทักษ์นี้เป็นอันตรายต่อตัวเธอมากกว่าให้ผลดี เธอสมควรที่จะได้มีชีวิตของเธอ และต้องการให้ยุติการพิทักษ์นี้โดยไม่ต้องมีการประเมินใดๆ
นอกจากนี้ เธอยังตำหนิเจมส์ สเปียร์ส พ่อของเธอและคนอื่นๆ ที่มีส่วนต่อการพิทักษ์สิทธิ์นี้ โดยเธอกล่าวว่า เธอถูกบังคับให้คุมกำเนิดและใช้ยาอื่นๆโดยที่ไม่ได้รับความยินยอม รวมทั้งยังกีดกันไม่ให้ศิลปินหญิงวัย 39 ปีผู้นี้ แต่งงานหรือมีลูกเพิ่มอีกด้วย
คำให้การความยาวกว่า 20 นาทีของบริตนีย์ สเปียร์ส ได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณชน ท่ามกลางความสนใจของบรรดาแฟนเพลงและสื่อมวลชนที่ติดตามการต่อสู้ในชั้นศาลของบริตนีย์ โดยเธอได้ระบุอีกว่า สิ่งที่เธอต้องการคือได้เป็นเจ้าของเงินของตัวเอง เธอต้องการให้การพิทักษ์สิทธิ์นี้จบลง และแค่ต้องการจะนั่งรถไปกับแฟนหนุ่มโดยลำพังได้ เธอเชื่ออย่างสุดใจว่าการพิทักษ์นี้เป็นสิ่งที่ทารุณและเธอต้องการชีวิตของเธอคืนมา
การพิทักษ์ที่เอาเปรียบชีวิต ‘บริตนีย์’
ก่อนหน้านี้ ทนายที่เป็นตัวแทนของผู้พิทักษ์ร่วมของบริตนีย์ ได้กล่าวว่า เนื้อหาการให้การทั้งหมดของเธอควรจะเก็บไว้เป็นการส่วนตัว โดยอ้างเหตุผลเรื่องข้อมูลด้านการแพทย์ที่ควรเป็นความลับ แต่ศิลปินหญิงชื่อดังปฏิเสธเรื่องนี้ และว่าคำพูดของเธอควรได้รับการเผยแพร่ต่อสาธารณชน
บริตนีย์ กล่าวให้การเพิ่มเติมว่า เธอถูกบังคับให้ใช้ยาลิเธียม (Lithium ) ซึ่งเป็นยาทางจิตเวช และทำให้เธอรู้สึกมึนเมา หลังจากการยุติการซ้อมคอนเสิร์ตในเวกัส เมื่อปี 2019 ก่อนที่จะยกเลิกการแสดงที่นั่นไป และเธอบอกว่าต้นตอของเรื่องมาจากความเห็นที่ไม่ลงรอยเรื่องท่าเต้นในโชว์เท่านั้นเอง โดยบริตนีย์ บอกว่า “ไม่เพียงแค่ครอบครัวของเธอจะไม่ยอมทำอะไรเลย พ่อของฉันกลับเห็นดีเห็นงามไปอีก”
"เขามีอำนาจควบคุมคนที่มีอิทธิพลในสังคมระดับตัวฉันได้ และเขาก็ชอบที่จะควบคุมและทำให้ลูกสาวของตัวเองเจ็บช้ำได้ 100,000 เปอร์เซ็นต์"บริตนีย์ สเปียร์ส ซูเปอร์สตาร์หญิงชาวอเมริกัน ให้การต่อศาลในนครลอสแองเจลิส เมื่อ 23 มิถุนายน เพื่อขอถอดถอน นายเจมส์ สเปียร์ส พ่อของเธอจากการเป็นผู้พิทักษ์ทรัพย์สิน
บริตนีย์ กล่าวหาเจมส์ สเปียร์ส พ่อของเธอว่าเขาสนุกกับการมีอำนาจเหนือเธอ และเห็นได้ชัดเมื่อตอนที่บริตนีย์ไม่ผ่านการตรวจสอบทางจิตเมื่อปี 2019 และบังคับให้บริตนีย์เข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจิตเวช
บริตนีย์เล่าถึงช่วงเวลานั้นไว้ว่า เธอร้องห่มร้องไห้เป็นชั่วโมง และพ่อกลับรู้สึกมีความสุขกับทุกนาทีนั้น
และบริตนีย์ยังบอกด้วยว่า เธอมีพยาบาลราว 2-3 คนที่คอยติดตามเธอทุกฝีก้าว และเธอไม่มีโอกาสได้เปลี่ยนเสื้อผ้าในมุมส่วนตัวเลย
'ฉันบอบช้ำไปหมดแล้ว'
ด้านทนายของเจมส์ สเปียร์ส พ่อของศิลปินหญิง ออกแถลงการณ์สั้นๆ แทนตัวเขาว่า เขารู้สึกเสียใจที่เห็นลูกสาวทรมานและเจ็บปวดอย่างยิ่ง และว่านายสเปียร์สรักและคิดถึงลูกสาวของเขาอย่างยิ่ง
เจมส์ สเปียร์ส บิดาของบริตนีย์ ทำหน้าที่เป็นผู้พิทักษ์ด้านการเงินของศิลปินดังวัย 39 ปี ตั้งแต่ปี 2008 จากช่วงที่บริตนีย์มีข่าวว่ามีปัญหาทางจิต และมีส่วนควบคุมการตัดสินใจใช้ชีวิตของบริตนีย์ภายใต้เงื่อนไขการพิทักษ์นี้ อีกทั้งเธอยังเคยให้เครดิตการพิทักษ์ดังกล่าวว่าได้ช่วยให้เธอรอดพ้นจากความล้มเหลวทางการเงินและทำให้เธอยังยืนหยัดเป็นซูเปอร์สตาร์เพลงป๊อบอยู่ได้
บริตนีย์ ย้ำว่า ในช่วงหลายปีที่เธอเลือกจะปิดปากเงียบ กลับสร้างภาพลักษณ์ที่ผิดๆว่า เธอยินยอมพร้อมใจให้เรื่องต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้น เธอบอกว่า “ฉันโกหกและป่าวประกาศให้ทั้งโลกรู้ว่า ฉันโอเค มีความสุขดี แต่ฉันกำลังอยู่ในช่วงที่ไม่ยอมรับความจริง ฉันช็อคอยู่ และฉันบอบช้ำไปหมดแล้ว”
แฟนเพลงของบริตนีย์กว่า 100 คน ที่รวมตัวกันเคลื่อนไหวภายใต้แฮชแทค #FreeBritney มารวมตัวกันที่หน้าศาลในนครลอสแองเจลิส ก่อนการให้การของบริตนีย์ และชูป้ายว่า “ปลดปล่อยบริตนีย์เดี๋ยวนี้!” และ “ออกไปจากชีวิตของบริตนีย์ซะ!”
สำนักข่าวเอพี รายงานด้วยว่า มาริสสา คูเปอร์ หนึ่งในแฟนเพลงของเธอ มีโอกาสอยู่ในห้องพิจารณาคดีด้วยได้บอกหลังการให้การของบริตนีย์ต่อศาลว่า นี่เป็นเรื่องที่บ้ามาก และทุกคนที่ได้ติดตามเรื่องราวนี้คงจะรู้สึกประสาทเสียกันตั้งแต่เริ่มต้น และหลายคนอาจจะรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่ดีมากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดจากปากของบริตนีย์
ซูเปอร์สตาร์หญิงชาวอเมริกันรายนี้ ต้องการให้ยุติการพิทักษ์โดยไม่ต้องมีการประเมินใดๆ แต่ภายใต้กฏหมายของแคลิฟอร์เนีย บวกกับการที่พ่อของบริตนีย์ ได้ระบุว่า ทรัพย์สินของศิลปินหญิงรายนี้อยู่ที่มากกว่า 50 ล้านดอลลาร์จะตกอยู่ในความเสี่ยงได้หากไร้การพิทักษ์ ภาระหนักตอนนี้จะตกอยู่กับบริตนีย์ ที่ต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเธอสามารถจัดการชีวิตของเธอได้ และต้องมีการสืบสวนสอบสวนและการประเมินเพื่อยุติการพิทักษ์นี้อยู่ดี
(ที่มา: The Associated Press)
