Your browser doesn’t support HTML5
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เธเรซ่า เมย์ ประกาศในวันพฤหัสบดีว่า สามารถบรรลุข้อตกลงกับคณะกรรมการสหภาพยุโรปได้แล้ว เกี่ยวกับการจัดทำร่างคำประกาศที่จะใช้เป็นแนวทางในการแยกตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปอย่างราบรื่นและเป็นระเบียบ โดยขณะนี้กำลังรอการอนุมัติของผู้นำสหภาพยุโรปในวันอาทิตย์นี้
นายกรัฐมนตรีอังกฤษ เธเรซ่า เมย์ กล่าวต่อรัฐสภาอังกฤษในวันพฤหัสบดีว่า ชาวอังกฤษต่างต้องการให้ข้อตกลงเบร็กซิต (Brexit) เสร็จลุล่วง และสามารถนำไปสู่อนาคตที่สดใสกว่าของอังกฤษ ซึ่งความตกลงที่ว่านี้ใกล้จะเกิดขึ้นแล้วในอีก 72 ชั่วโมงข้างหน้า
นายกฯ เมย์ และประธานคณะกรรมการสหภาพยุโรป ฌอง-คล้อด ยุงเคอร์ หารือกันเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา และสามารถตกลงกันได้ในหลักการเพื่อจัดทำเป็นร่างคำประกาศที่มีผลผูกพันทางการเมือง แต่ไม่มีผลบังคับทางกฎหมาย โดยขณะนี้กำลังรอการอนุมัติจากผู้นำประเทศสมาชิกแต่ละประเทศของ EU ที่จะร่วมประชุมพิเศษกันในวันอาทิตย์นี้
เอกสารดังกล่าวระบุถึงความร่วมมือในรูปแบบต่างๆ ในทางการค้าและเศรษฐกิจ การบังคับใช้กฎหมายและการตัดสินคดีความต่างๆ ตลอดจนนโยบายต่างประเทศ ความมั่นคง และการทหาร
อย่างไรก็ตาม สมาชิกอียูหลายประเทศยังคงต่อต้านร่างคำประกาศฉบับนี้ เพราะเชื่อว่าทำให้อังกฤษมีข้อได้เปรียบทางการแข่งขันมากเกินไป ที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์ของอียู รวมถึงสิทธิด้านแรงงานและมาตรฐานด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งอาจทำให้ต้นทุนการผลิตสินค้าของอังกฤษต่ำกว่าประเทศอื่นในอียูได้
ในอีกด้านหนึ่ง นายกฯ เมย์ ก็กำลังเผชิญแรงกดดันในประเทศจากสมาชิกรัฐสภาบางส่วนที่มองว่า ข้อตกลง Brexit ครั้งล่าสุดนี้ยังไม่ใช่การแยกอังกฤษออกจากสหภาพยุโรปอย่างสมบูรณ์ และดูเหมือนว่าอาจจะยังไม่สามารถผ่านการรับรองของรัฐสภาอังกฤษเองได้ง่ายๆ เช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งพรรคฝ่ายค้านต่อต้านข้อตกลงนี้อย่างแข็งขัน โดยผู้ที่ไม่เห็นด้วยบอกว่า อังกฤษยังคงผูกติดกับกฎเกณฑ์ต่างๆ ของอียูมากเกินไป
ขณะเดียวกัน ความกังวลสำคัญในการเจรจาล่าสุด คือ การควบคุมจัดการสินค้าผ่านแดนระหว่างไอร์แลนด์เหนือที่เป็นส่วนหนึ่งของอังกฤษ กับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรปนั้น จะออกมาในรูปแบบไหน
ตามกำหนดการแล้ว อังกฤษจะแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปในวันที่ 29 มีนาคม ปี ค.ศ. 2019 แต่ข้อตกลงในรายละเอียดของการแยกตัวนั้นจำเป็นต้องมีการลงนามตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อให้รัฐสภาของอังกฤษและสหภาพยุโรปมีเวลาในการรับรองข้อตกลงดังกล่าว
สำหรับการเจรจาในส่วนของตัวบทกฎหมายนั้น คาดว่าจะเกิดขึ้นหลังจากวันที่ 29 มีนาคม ปีหน้า ซึ่งอาจจะมีความสลับซับซ้อนมากกว่าส่วนที่กำลังมีการหารือกันอยู่ในขณะนี้เสียอีก
(ผู้สื่อข่าว Jamie Dettmer รายงาน / ทรงพจน์ สุภาผล เรียบเรียง)