นายกฯหญิงอังกฤษ ออกมาเตือนว่า การปรับเปลี่ยนผู้นำอังกฤษในตอนนี้ไม่ได้ช่วยให้การเจรจาเบร็กซิตง่ายขึ้น หลังจากที่เก้าอี้นายกฯ เริ่มสั่นคลอนจากการทยอยลาออกของรัฐมนตรีและแรงกดดันภายในพรรคอนุรักษ์นิยมจากประเด็นเบร็กซิต
นายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ แห่งอังกฤษ ให้สัมภาษณ์กับ Sky News ของอังกฤษ ระบุว่า การปรับเปลี่ยนผู้นำในตอนนี้ไม่ได้ทำให้การเจรจาแยกตัวจากสหภาพยุโรป หรือ เบร็กซิต ง่ายขึ้น และไม่ได้ช่วยเปลี่ยนแปลงทิศทางในสภาแต่อย่างใด และว่าในอีกสัปดาห์ข้างหน้าสถานการณ์จะวิกฤตขึ้นกว่าเดิม เพราะเธอมีกำหนดการเข้าร่วมประชุมกับผู้นำในสหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลล์ ในวาระประชุมฉุกเฉินของสภายุโรป 25 พฤศจิกายนนี้
ก่อนหน้านี้ นางเทเรซา เมย์ ถูกกดดันภายในพรรคและในสภาหลังบรรลุร่างแผนเบร็กซิตเมื่อสัปดาห์ก่อน ส่งผลให้รัฐมนตรี 2 คนในกระทรวงสำคัญของเบร็กซิตประกาศลาออก และมี ส.ส. อีกกว่า 20 คน ยื่นหนังสือเพื่อขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเธอ
ทั้งนี้ การแยกตัวจากสหภาพยุโรปของอังกฤษจะเริ่มขึ้นในวันที่ 29 มีนาคมปี พ.ศ. 2562 และแยกตัวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ปี พ.ศ. 2563
นักวิเคราะห์ด้านการเมืองต่างคาดการณ์ผลลัพธ์ออกมาในหลายรูปแบบ ตั้งแต่การที่รัฐสภาอังกฤษเห็นชอบในร่างข้อตกลงดังกล่าว ไปจนถึงความเป็นไปได้ที่รัฐสภาอังกฤษจะคว่ำข้อตกลงเบร็กซิต รวมทั้งการที่นางเทเรซา เมย์ พ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีอังกฤษ ที่อาจทำให้อังกฤษต้องแยกตัวจากสหภาพยุโรปแบบไร้ข้อตกลง หรืออาจนำไปสู่การลงประชามติครั้งใหม่ก็เป็นได้