Your browser doesn’t support HTML5
รัฐบาลอังกฤษและจีนกำลังอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก หลังจากประชาชนฮ่องกงจำนวนมากเดินขบวนประท้วงติดต่อกัน โดยมีชนวนเหตุมาจากร่างกฎหมายส่งตัวผู้ต้องหาข้ามแดน ที่เป็นข่าวมาหลายสัปดาห์
ด้านหนึ่งอังกฤษ อยู่ภายใต้ความคาดหวังว่าจะต้องยืนหยัดเคียงข้างประชาธิปไตยและการเเสดงความคิดเห็นของคนในฮ่องกง ซึ่งเป็นดินแดนภายใต้อาณานิคมอังกฤษยาวนาน 156 ปี ก่อนการส่งผ่านอำนาจคืนสู่จีนเมื่อ 22 ปีก่อน
แต่อีกด้านหนึ่งจีนเป็นมหาอำนาจทางเศรษฐกิจที่อังกฤษต้องการเป็นมิตรด้วย ขณะที่ประเทศกำลังหารายได้เข้ามาทดแทนผลกระทบเชิงลบจากการออกจากสหภาพยุโรป
หลายครั้งดูเหมือนว่าเหตุการณ์เดินขบวนของประชาชนฮ่องกง กระตุ้นให้อังกฤษแสดงจุดยืนข้างเดียวกับมวลชน
รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ นาย เจรามี ฮันท์ เรียกร้องให้จีนทำตามคำประกาศร่วมกับอังกฤษเรื่องการปกป้องเสรีภาพของประชาชน ภายใต้กรอบ “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ซึ่งเป็นแนวทางการบริหารเกาะฮ่องกง
อย่างไรก็ตาม ห้วงเวลาแห่งการแสดงท่าทีของรัฐมนตรีฮันท์ที่สนับสนุนการเคลื่อนไหวอย่างสงบ ไม่สอดคล้องกับสถานการณ์ภาคสนามเท่าใดนัก เพราะเมื่อต้นสัปดาห์นี้ กลุ่มผู้ประท้วงบุกเข้ารัฐสภาฮ่องกงและสร้างความเสียหายให้เเก่สถานที่
SEE ALSO: ตำรวจฮ่องกงใช้กำลังสลายผู้ประท้วงบุกทำลายอาคารรัฐสภาหลังจากนั้นอังกฤษเริ่มรักษาระยะห่างจากผู้ประท้วงในฮ่องกง
จึงได้เวลาที่ฝ่ายจีนเดินเกมรุกบ้าง กล่าวคือเจ้าหน้าที่ของรัฐบาลปักกิ่งแถลงตำหนิการแทรกแซงของอังกฤษต่อกิจการภายในของจีน และเตือนถึงแรงกระเพื่อมที่รุนแรงซึ่งอาจตามมา
แถลงการณ์ของฝ่ายจีนระบุว่า “ในความคิดของคนบางคน ฮ่องกงยังอยู่ภายใต้อังกฤษ และลืมไปว่า ฮ่องกงอยู่ในอ้อมกอดของแผ่นดินเเม่เเล้ว.... ความคิดของเจ้าอาณานิคมแบบนี้ยังคงหลอนสติเจ้าหน้าที่หรือนักการเมืองพวกนี้อยู่”
ต่อมานาย หลิว เชี่ยวหมิง ผู้กล่าวถ้อยแถลงดังกล่าว ถูกเรียกตัวมาต่อว่าโดยกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษ รอยร้าวจากเหตุการณ์นี้กระทบต่องานด้านการทูตที่ช่วยอังกฤษเติมต่อความสัมพันธ์กับจีน ด้านการค้าและการลงทุน
SEE ALSO: อังกฤษเรียกตัวทูตจีนเข้าพบเพื่อตักเตือนความเห็นเรื่องการประท้วงในฮ่องกง
เมื่อเดือนเมษายน รัฐบาลอังกฤษอนุมัติในเบื้องต้นให้บริษัทหัวเหว่ยของจีนช่วยอังกฤษพัฒนาระบบโทรคมนาคม 5 จี แม้ว่าสหรัฐฯ คัดค้าน
และรองนายกรัฐมนตรีจีน ฮู ชุนหัว เดินทางเยือนกรุงลอนดอนเมื่อเดือนที่แล้ว เพื่อร่วมเปิดโครงการเชื่อมการซื้อขายหุ้นระหว่างตลาดหุ้นที่ลอนดอนและเซี่ยงไฮ้
นักวิเคราะห์กล่าวว่า หากอังกฤษเป็นอย่างประเทศยุโรปบางแห่ง เช่น อิตาลีและฮังการี หน้าที่และบทบาทเรื่องการปกป้องประชาธิปไตยอาจจืดจางลง เพื่อแลกกับผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจได้ง่ายขึ้น
รัฐบาลกรุงโรมและบูดาเปส ลงนามเป็นสมาชิกในโครงการ “หนึ่งถนน หนึ่งวงแหวน” ของจีนที่มุ่งสร้างระบบสาธาณูปโภคขนาดยักษ์
แต่หากพิจารณาถึงประวัติศาสตร์และค่านิยมประชาธิปไตยที่หลอมอยู่ในวัฒนธรรม สังคมและการเมืองอังกฤษ เป็นการยากที่รัฐบาลกรุงลอนดอนจะนิ่งเฉยต่อการเคลื่อนไหวของประชาชนในฮ่องกง เเม้นั่นอาจนำมาซึ่งผลรอยร้าวในความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนก็ตาม
(รัตพล อ่อนสนิท เรียบเรียงจากรายงานของ Jamie Dettmer)