แพทย์แนะ ‘หายใจลึกๆ’ ขจัด ‘อากาศเก่าๆ’ ในปอด ช่วยแก้เครียดได้

A new study suggests meditation can reduce stress and anxiety.

Your browser doesn’t support HTML5

Breathing


มนุษย์เราหายใจเฉลี่ยวันละ 20,000 ครั้ง และผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจอย่าง นายเเพทย์ เจมส์ ฮอยท์ แห่ง University of Colorado ที่อเมริกา กล่าวว่าการหายใจมีความสำคัญต่อสุขภาพมาก

เขาบอกว่า กล้ามเนื้อของระบบหายใจถูกใช้งานตลอดวัน ทุกวัน จนวันที่เราสิ้นลม โดยกล้ามเนื้อเหล่านี้ อยู่ตั้งแต่บริเวณจมูกที่เราสูดอากาศเข้าไป สู่ส่วนหน้าอก และบริเวณกะบังลม

การหายใจเข้าให้สุด ผ่านการสูดอากาศให้ลึก จะทำให้ท้องด้านล่างของเราพองขึ้น วิธีนี้ช่วยลดความดันโลหิตได้

เว็บไซต์ของคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด กล่าวว่าการหายใจลึกๆ สามารถลดความเครียดได้ด้วย และทำให้ระบบร่างกายนำออกซิเจนเข้ามาและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกไปได้อย่างเต็มที่

แต่ในทางตรงข้าม หากเราหายใจไม่สุด เเพทย์เรียกการสูดลมเข้าออกแบบนี้ว่า chest breathing หรือ shallow breathing คือไปถึงเเค่ทรวงอก แบบไม่เต็มปอด และไม่ลึกพอที่ทำให้กะบังลมขยายตัวเต็มที่

เเพทย์กล่าวว่า “การหายใจตื้น” อาจทำให้คุณกังวลและกระวนกระวายใจได้

และถ้าหายใจไม่สุดจนเป็นนิสัย “อากาศเก่าๆ” จะติดค้างอยู่ในปอด และกะบังลมมีพื้นที่น้อยลงที่จะนำ “อากาศที่สดชื่นกว่า” ที่มาพร้อมกับออกซิเจนเข้าสู่ร่างกาย

ด้วยเหตุนี้ผู้เชี่ยวชาญจึง เเนะนำวิธีบริหารการหายใจ เพื่อให้เราสามารถ หายใจลึกๆจนเป็นนิสัย

เริ่มต้นด้วยหาบริเวณสำหรับนั่งหรือนอนลง จากนั้นนำมือข้างหนึ่งมาสัมผัสลำตัวบริเวณซี่โครง เริ่มหายใจลึกๆ ช้าๆ มือที่อยู่บริเวณหน้าท้องจะรับรู้ได้ถึงการพองขึ้นของซี่โครง จากนั้นหายใจออกช้าๆ ให้สุด ขณะที่มือที่อยู่บนลำตัวรับรู้ได้ถึงซี่โครงที่ค่อยๆ ผ่อนตัวลง

แพทย์กล่าวว่า วิธีนี้ช่วยขับ “อากาศเก่าๆ” ในปอดออก และเพิ่มปริมาณออกซิเจนสู่ร่างกาย

นายเเพทย์ เจมส์ ฮอยท์ กล่าวว่า การหายใจอย่างถูกต้อง ควรมาพร้อมกับ การไม่สูบบุหรี่ การนอนให้พอเพียง และทานอาหารที่มีประโยชน์จึงจะช่วยให้เกิดผลดีต่อร่างกายอย่างสมบูรณ์

หากว่า ใครหายใจผิดปกติ นั่นนอกจากจะเป็นสัญญาณของความกังวลแล้ว อาจหมายถึงปัญหาสุขภาพอย่างอื่น