“บลิงเคน” ย้ำส่งเสริมภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี

เมื่อวันอังคาร นายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า สหรัฐฯ จะร่วมมือกับชาติพันธมิตรเพื่อปกป้องและส่งเสริมภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่เปิดกว้างและเสรี

รมต. บลิงเคนกล่าวระหว่างการเยือนอินโดนีเซียว่า การต่อต้านภัยคุกคามที่ยกระดับขึ้นที่ดีที่สุดคือการร่วมมือกับประเทศอื่นๆ โดยสหรัฐฯ ต้องการสร้างความมั่นใจว่า ประชาชนและประเทศต่างๆ จะมีเสรีภาพในการตัดสินใจเกี่ยวกับอนาคตและหุ้นส่วนของตน

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังย้ำถึงพันธะของสหรัฐฯ ต่อเสรีภาพในการเดินเรือในทะเลจีนใต้ โดยระบุว่า กิจกรรมของจีนในบริเวณดังกล่าวส่งผลต่อการเคลื่อนย้ายสินค้ามูลค่า 3 ล้านล้านดอลลาร์ต่อปี

Indonesia United States

เขาระบุว่า กิจกรรมของจีนที่ครอบคลุมตั้งแต่เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือไปจนถึงเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งการอ้างสิทธิ์เหนือทะเลเปิด ใช้บริษัทที่รัฐบาลจีนสนับสนุนอัดฉีดเงินเพื่อบิดเบือนกลไกของตลาดเสรี กีดกันสินค้าส่งออกและยกเลิกข้อตกลงกับประเทศที่มีนโยบายไม่สอดคล้องกับจีน รวมทั้งการมีส่วนร่วมกับกิจกรรมประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ล้วนทำให้เกิดความกังวล และประเทศในภูมิภาคนี้ต้องการให้มีการเปลี่ยนพฤติกรรมดังกล่าว

ทั้งนี้ จีนอ้างอำนาจอธิปไตยเหนือทะเลจีนใต้ที่เต็มไปด้วยทรัพยากร มีพื้นที่ครอบคลุมตั้งแต่ฮ่องกงไปจนถึงเกาะบอร์เนียว โดยอ้างกรรมสิทธิ์ทับซ้อนกับบรูไน มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ ไต้หวัน และเวียดนาม

เมื่อเดือนที่แล้ว จีนรับปากว่าจะไม่สร้างอิทธิพลเหนือทะเลจีนใต้ แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ท่าทีของจีนนั้นช้าเกินไปที่จะโน้มน้าวให้ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่อ้างกรรมสิทธิ์เช่นกันเชื่อถือ หลังจากที่จีนขยายกิจกรรมในบริเวณทะเลดังกล่าวมาหลายปี

รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ระบุว่า “การปกป้องและเคารพกฎหมายไม่เป็นผลเสียต่อประเทศใด” และสหรัฐฯ ไม่ต้องการแสวงหาความขัดแย้งในภูมิภาคดังกล่าว

เขายังได้หารือเกี่ยวกับการส่งเสริมการค้าที่เป็นธรรมในภูมิภาคอินโดแปซิฟิก รวมทั้งจุดอ่อนของสาธารณูปโภคในภูมิภาคที่เป็นความท้าทายต่อการเติบโตอย่างมีส่วนร่วม ความจำเป็นในการฟื้นฟูอย่างรวดเร็วเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ เช่น โรคโควิด-19 รวมถึงการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศด้วยการลงทุนในงานประเภทใหม่ๆ

รมต.บลิงเคนอยู่ระหว่างการเยือนมาเลเซียในวันที่ 14-15 ธันวาคม ตามข้อมูลของกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ และจะเดินทางเยือนไทย ระหว่างวันที่ 15-16 ธันวาคม ตามข้อมูลของนายธานี แสงรัตน์ โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทย โดยมีกำหนดหารือกับพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พบปะกับนายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ รวมถึงมีกำหนดรับประทานอาหารกับภาคเอกชนของไทย

นายธานียังระบุด้วยว่า การเดินทางเยือนของ รมต. บลิงเคน จะเป็น "โอกาสในการพัฒนาพันธมิตรระหว่างไทย-สหรัฐฯ พัฒนาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ และพัฒนาความร่วมมือในด้านที่ทั้งสองประเทศมีประโยชน์ร่วมกัน"

ข้อมูลบางส่วนจากสำนักข่าว Associated Press สำนักข่าว Agence France-Presse และสำนักข่าว Reuters