องค์การอนามัยโลก (WHO) กำลังเร่งทำงานร่วมกับทางการกัมพูชาในการรับมือกับการระบาดของไข้หวัดนก หลังพบผู้ป่วยติดไวรัส H5N1 2 รายเมื่อเร็ว ๆ นี้ ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
แพทย์หญิงซิลวี บริออนด์ ผู้อำนวยการด้านการเตรียมความพร้อมและการป้องกันการระบาดและการระบาดใหญ่ ของ WHO บอกกับผู้สื่อข่าวที่เข้าร่วมการแถลงข่าวแบบออนไลน์ในวันศุกร์ว่า สถานการณ์ในปัจจุบันอยู่ในระดับ “น่ากังวล” เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของสัตว์ปีกและสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่ติดไวรัสไข้หวัดนกในเร็ว ๆ นี้ และระบุด้วยว่า องค์การอนามัยโลกกำลังทบทวนการประเมินความเสี่ยงโลกเนื่องจากสถานการณ์ที่ว่านี้ด้วย
ครั้งสุดท้ายที่ WHO ทำการประเมินความเสี่ยงของการแพร่ระบาดของไข้หวัดนกสู่คนคือเมื่อต้นเดือนนี้ ซึ่งมีการระบุว่า ความเสี่ยงดังกล่าวอยู่ในระดับต่ำ
เมื่อวันพฤหัสบดี ทางการกัมพูชารายงานว่า เด็กหญิงวัย 11 ปีเสียชีวิตลงเพราะติดเชื้อไวรัส H5N1 และว่า เจ้าหน้าที่พบว่า คนรอบตัวเด็กจำนวน 12 คนที่เคยใกล้ชิดผู้ป่วยและแสดงอาการ ติดเชื้อไวรัสนี้เช่นกัน
แพทย์หญิงบริออนด์ กล่าวว่า “สถานการณ์(การระบาดของ) H151 ทั่วโลกนั้น น่ากังวลยิ่ง เนื่องจากการแพร่กระจายของไวรัสจากนกที่บินไปรอบโลก และการพบการติดเชื้อในสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม โดยเฉพาะมนุษย์ ที่เพิ่มขึ้น” และว่า “WHO ให้ความสำคัญต่อความเสี่ยงจากไวรัสนี้อย่างมาก และร้องขอให้ทั่วโลกยกระดับการเฝ้าระวังสังเกตการณ์ด้วย”
ทั้งนี้ ผู้อำนวยการ WHO กล่าวว่า ยังไม่มีความชัดเจนว่า มีการแพร่เชื้อไวรัสไข้หวัดนกจากคนสู่คนแล้วหรือไม่ แต่ประเด็นนี้คือ สิ่งที่ทำให้หลายฝ่ายมาให้ความสนใจต่อสถานการณ์ในกัมพูชา เพื่อตรวจสอบว่า ผู้ป่วย 2 รายที่พบนั้นป่วยเพราะ “อยู่ในสิ่งแวดล้อมเหมือน ๆ กัน” และมีการสัมผัสกับนกหรือสัตว์อื่น ๆ ที่ติดเชื้อ ใช่หรือไม่
ไวรัสสายพันธ์ใหม่ของ H5N1 (กลุ่ม 2.3.4.4b) นั้นถูกค้นพบในปี ค.ศ. 2020 และเป็นสาเหตุของการตายของนกป่าและสัตว์ปีกที่เลี้ยงในฟาร์มจำนวนมากในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา และไวรัสกลายพันธุ์นี้ยังแพร่ไปสู่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมด้วย จึงทำให้ทั่วโลกมีความกังวลอย่างมาก
แต่แม้ไวรัสตัวใหม่นี้ยังไม่ได้ทำให้เกิดอาการป่วยหนักในคน และ WHO ได้รับรายงานว่า มีผู้ติดเชื้อทั้งหมดไม่ถึง 10 คน ซึ่งล้วนเคยสัมผัสกับสัตว์ปีกที่ตายเพราะไวรัส องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า ได้ยกระดับการเตรียมความพร้อมรับมือ โดยมีการเตรียมยาต้านไวรัสและวัคซีนที่มีการออกใบอนุญาตให้แจกจ่ายใช้งานไว้แล้วด้วย หากสถานการณ์เกิดเปลี่ยนแปลงไปจากที่เป็นอยู่
- ที่มา: รอยเตอร์