อดีตรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ออกมาเรียกร้องเป็นครั้งแรกให้มีกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ โดยกล่าวที่รัฐนิวแฮมเชอร์ในวันพุธว่า "โดนัลด์ ทรัมป์ ได้ละเมิดคำปฏิญาณที่ให้ไว้ก่อนเข้ารับตำแหน่ง อีกทั้งยังทรยศประเทศและกระทำการที่สมควรต่อการถูกถอดถอน"
ด้านประธานาธิบดีทรัมป์ตอบโต้ทางทวิตเตอร์ว่า "รู้สึกสมเพชที่เห็น สลีปปี้ โจ ไบเด้น และบุตรชายนายฮันเตอร์ สร้างความเสียหายต่อชาวอเมริกันผู้เสียภาษี และปล้นเงินจากอย่างน้อยสองประเทศเป็นมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ และยังออกมาเรียกร้องให้ถอดถอนที่ไม่ได้ทำอะไรผิด แต่ก็เข้าใจได้เพราะการหาเสียงที่ล้มเหลวทำให้ไบเด้นไม่มีทางเลือกมากนัก"
ขณะเดียวกัน ทนายความของทำเนียบขาว แพท ซิโพโลเน ส่งจดหมายถึงประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ส.ส.แนนซี เพโลซี จากพรรคเดโมแครต ในวันนี้ว่า จะไม่เข้าร่วมในกระบวนการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ซึ่งขัดกับรัฐธรรมนูญ
ซิโพโลเนระบุด้วยว่า ทำเนียบขาวขอปฏิเสธการให้ประธานาธิบดีทรัมป์ซักถามพยานและการตรวจสอบหลักฐานที่ใช้ในการไต่สวนเพื่อถอดถอนประธานาธิบดีทั้งหมด เพราะล้วนขัดกับกฎหมายและรัฐธรรมนูญสหรัฐฯ
ด้าน ส.ส. แนนซี เพโลซี ตอบโต้จดหมายดังกล่าวว่าไม่ถูกต้อง และเป็นความพยายามล่าสุดในการปกปิดความผิดของประธานาธิบดีทรัมป์ พร้อมเตือนว่าการกระทำใด ๆ ก็ตามที่เป็นการซุกซ่อนความจริงเรื่องที่ทรัมป์ใช้อำนาจในทางที่ผิด จะถือว่าเป็นหลักฐานของการขัดขวางกระบวนการยุติธรรม
คณะกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เริ่มต้นกระบวนการไต่สวนกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีทรัมป์ หลังจากที่ผู้ออกมาเปิดโปง หรือ whistleblower กล่าวหาประธานาธิบดีทรัมป์ว่าโทรศัพท์หาประธานาธิบดียูเครน เพื่อขอให้ผู้นำยูเครนช่วยหาข้อมูลที่ให้ร้ายต่ออดีตรองประธานาธิบดี โจ ไบเดน และบุตรชาย นายฮันเตอร์ ไบเดน โดยหวังว่าจะสามารถสกัดความพยายามของโจ ไบเดน ที่จะเป็นตัวแทนเดโมเเครตชิงเก้าอี้ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งปีหน้า
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าพรรคเดโมเเครตจะคุมเสียงข้างมากในสภาผู้แทนฯ แต่เป็นเสียงข้างน้อยในวุฒิสภา และจะต้องได้รับการสนับสนุนจาก ส.ว. รีพับลิกันมากถึง 20 คน และ ส.ว. อิสระอีก 2 คน รวมทั้ง ส.ว. เดโมเเครตทั้งหมด เพื่อที่จะถอดถอนโดนัลด์ ทรัมป์ จากการเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ