ไบเดน สั่งหน่วยงานรัฐร่วมต้าน “ความเกลียดชัง” ต่อคนเชื้อสายเอเชีย

FILE - Supporters of Ed Lee cheered his 2011 election as the first Asian-American mayor of San Francisco, Calif. A new super PAC aims to get out the Asian-American vote, especially for the presidency.

Your browser doesn’t support HTML5

Biden Signs Memorendum


เมื่อวานนี้ตามเวลาสหรัฐฯ ประธานาธิบดีโจ ไบเดนลงนามในเอกสารของฝ่ายบริหาร ที่เร่งเร้าให้หน่วยงานรัฐร่วมต่อต้านและป้องกันอาชญากรรมจากความเกลียดชังที่เกิดขึ้นในอเมริกา

การลงนามในแนวทางปฏิบัติครั้งนี้ เกิดขึ้นในวันเดียวกับที่ผู้นำคนใหม่ของสหรัฐฯ​ ออกคำสั่งหลายฉบับที่เกี่ยวข้องกับคนกลุ่มน้อยในสหรัฐฯ​ เช่น การให้หน่วยงานการเคหะของสหรัฐฯ พิจารณากฎเกณฑ์เพื่อเพิ่มโอกาสที่ดีขึ้นด้านที่อยู่อาศัยของของคนผิวสี

นอกจากนี้เขายังออกคำสั่งฝ่ายบริหารให้ค่อยๆ ลดจำนวนเรือนจำที่บริหารจัดการโดยเอกชน โดยการศึกษาหลายชิ้นพบว่าเรือนจำเหล่านี้มักใช้เป็นที่คุมขังคนผิวดำและคนกลุ่มน้อยมากกว่าสัดส่วนตามปกติของประชากรอเมริกัน ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal

ความพยายามเหล่านี้สะท้อนถึงเป้าหมายเร่งด่วนประการหนึ่งของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ในการที่จะการสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม และดูเเลสวัสดิภาพของประชากรที่มักถูกมองข้าม

ในส่วนของเอกสารฝ่ายบริหารที่ประธานาธิบดีไบเดน ลงนามเมื่อวานนี้ ที่เกี่ยวกับชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย เนื้อหาตอนหนึ่ง ระบุว่า ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 คนอเมริกันเชื้อสายเอเชียตกเป็นเป้าของการถูกก่อกวนรังควาญ และถูกสร้างตราบาป

ทิฟฟานี ยู ชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียให้สัมภาษณ์กับวีโอเอว่า ในอเมริกา เกิดความคิดเหยียดเชื้อชาติในคนบางกลุ่ม ที่มองผู้ที่มีเชื้อสายเอเชียว่าเป็นคนเเพร่เชื้อโคโรนาไวรัส

Biden

กลุ่ม STOP AAPI Hate ซึ่งเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการคุกคามชาวเอเชียในอเมริกา ระบุว่า ตั้งแต่กลางเดือนมีนาคมถึงมิถุนายนปีที่เเล้ว มีคนเชื้อสายเอเชียในสหรัฐฯ ตกเป็นเป้าของการถูกคุกคามหรือทำร้ายเนื่องจากความเกลียดชังด้านเชื้อชาติหรือสีผิว มากกว่า 2,000 ครั้ง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะกระแสต่อต้านจีนทางการเมืองในสหรัฐฯ ระหว่างการระบาดใหญ่ของโคโรนาไวรัส

รายงานระบุว่า การคุกคามส่วนใหญ่เป็นการใช้วาจาด่าทอด้านเชื้อชาติและสีผิว แต่ก็มีการใช้กำลังทำร้ายราว 8% รวมถึงการห้ามคนเชื้อสายเอเชียเข้าร้านเนื่องจากความหวาดกลัวไวรัส และการไอหรือถ่มน้ำลายใส่

เหตุการณ์ที่ร้ายแรงที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคมที่รัฐเท็กซัส เมื่อวัยรุ่นผู้หนึ่งใช้มีดแทงชายอเมริกันเชื้อสายเอเชียและลูกเล็กสองคนในซูเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่ง โดยคนร้ายกล่าวในภายหลังว่า คิดว่าชายผู้นั้นคือคนจีนซึ่งแพร่เชื้อโคโรนาไวรัสสู่คนอื่นๆ

เอกสารที่ประธานาธิบดีไบเดนลงนามเมื่อวานนี้ ระบุว่า แม้มีการคุกคามคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะมหสมุทรแปซิฟิค (Asian Americans and Pacific Islanders) มากขึ้น แต่ในความเป็นจริง คนกลุ่มนี้ประมาณสองล้านคนคือผู้ที่ทำงานในหน้าที่จำเป็นช่วงโควิด-19 ระบาดซึ่งรวมถึง เจ้าหน้าที่ด้านสาธารณะสุขและผู้ทำงาน “ด่านหน้า” ในการบรรเทาภัยพิบัติ

ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกคำสั่งให้ฝ่ายหน่วยงานบริหารดำเนินการ เพื่อป้องกันการเหยียดเชื้อชาติผู้ที่มีพื้นฐานทางชาติพันธุ์จากกลุ่มเอเชียและหมู่เกาะมหสมุทรแปซิฟิค ทั้งในรูปแบบของการกระทำและทางวาจา

ภายใต้คำสั่งดังกล่าว หน่วยงานรัฐควรรับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณะสุขและผู้นำชุมชนกลุ่มชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชีย ในการทำความเข้าใจให้ดีขึ้นถึงความต้องการและอุปสรรคต่างๆ ที่ประชากรกลุ่มนี้กำลังเผชิญ

นอกจากนั้น รัฐมนตรีกระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯควรมองหาเเนวทางสนับสนุนความพยายามระดับมลรัฐและชุมชนต่างๆ เช่นเรื่องการเก็บข้อมูลการกระทำผิด เพื่อต่อสู้กับปัญหาจากอาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อคนอเมริกันเชื้อสายเอเชีย

รัฐบาลประธานาธิบดีไบเดน ยังได้ “เร่งเร้าอย่างเเข็งขัน” ให้หน่วยงานอิสระต่างๆ ร่วมทำตามแนวทางที่ระบุไว้ในเอกสารฉบับนี้

ซินเธีย ชอย ผู้อำนวยการร่วม ของกลุ่ม Chinese for Affirmative Action ที่เป็นส่วนหนึ่งของเครือข่าย STOP AAPI Hate กล่าวว่า การที่รัฐบาลรับรู้ถึง “ประวัติศาสตร์เจ็บปวด” ที่เกิดขึ้นกับกลุ่มประชากรนี้ เป็นเป็นก้าวเเรกที่จำเป็น และส่งสัญญาณที่สำคัญ ที่ว่าคนอเมริกันเชื้อสายเอเชียได้เป็นส่วนหนึ่งของการตื่นตัวในความพยายามแก้ปัญหาการเหยียดเชื้อชาติสีผิวในอเมริกา