ส.ส. สหรัฐฯ พรรครีพับลิกัน ยื่นเรื่องขอถอดถอนประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของพรรคเดโมแครต หลังมีการสืบสวนการเจรจาธุรกิจต่างชาติของฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชายของเขา มานานหลายเดือน
อย่างไรก็ตาม ยังไม่พบหลักฐานที่โจ ไบเดน กระทำผิดด้วยตนเอง ขณะที่ทางทำเนียบขาวระบุว่า ผู้นำสหรัฐฯ ไม่ได้ทำความผิดใด ๆ และการยื่นขอถอดถอนเขาในครั้งนี้นั้นไม่มีมูล
รอยเตอร์รวมรวบประเด็นที่ทางพรรครีพับลิกันยื่นถอดถอนไบเดนพร้อมหลักฐานดังต่อไปนี้
ธุรกิจของฮันเตอร์ ไบเดน
สมาชิกพรรครีพับลิกันกล่าวหาโจ ไบเดนว่า ได้ประโยชน์จากการเจรจาธุรกิจของฮันเตอร์ ไบเดน บุตรชาย ขณะเขาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีเมื่อช่วงปี 2009-2017
คณะกรรมการกำกับดูแลของสภาล่างสหรัฐฯ ระบุว่า ไบเดนพบกับหุ้นส่วนธุรกิจบางรายของฮันเตอร์ ไบเดน และอนุญาตให้บุตรชายเดินทางไปกับตนได้ ระหว่างการเดินทางไปปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ
เดวอน อาร์เชอร์ หุ้นส่วนธุรกิจของฮันเตอร์ ไบเดน กล่าวกับคณะกรรมการว่า ฮันเตอร์ต้องการสร้างภาพจำว่า เขาสามารถเข้าถึงพ่อของเขาได้ และให้พ่อของเขาคุยโทรศัพท์กับหุ้นส่วนต่างชาติราว 20 ครั้ง ในช่วงเวลา 10 ปี แต่บทสนทนาดังกล่าวดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับการเจรจาธุรกิจ และเขาไม่ทราบว่าไบเดนผู้พ่อได้กระทำการใดโดยมิชอบหรือไม่
ทางพรรครีพับลิกันยังได้กล่าวถึงเอกสารของสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ เอฟบีไอ เมื่อปี 2020 โดยผู้แจ้งข้อมูลอ้างคำพูดของประธานบริษัทเบอริสมา (Burisma) บริษัทสัญชาติยูเครนที่ฮันเตอร์ ไบเดน เป็นคณะกรรมการบริษัท โดยประธานบริษัทกล่าวว่า “ต้องจ่ายเงิน 5 (ล้าน) ให้ไบเดนคนหนึ่ง และอีก 5 (ล้าน) ให้ไบเดนอีกคนหนึ่ง”
ทางด้าน มิโคลา ซโลเชฟสกี ประธานบริษัทเบอริสมา ให้การกับทางคณะกรรมการว่า ไม่มีบุคลากรของบริษัทติดต่อกับโจ ไบเดน หรือเจ้าหน้าที่ของเขา และโจ ไบเดน ไม่ได้ให้การช่วยเหลือบริษัทแต่อย่างใด ขณะที่เจมี แรสกิน ส.ส. พรรคเดโมเครตที่อยู่ในคณะกรรมการกำกับดูแล กล่าวว่า เอฟบีไอปัดตกกรณีดังกล่าวไป หลังเห็นว่าไม่มีหลักฐานรองรับข้อกล่าวหาดังกล่าว
การกดดันให้ปลดอัยการยูเครน
ไบเดนเคยกดดันให้มีการถอดถอนวิคเตอร์ โชกิน อัยการสูงสุดของยูเครน ชณะที่เขาดำรงตำแหน่งรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ทั้งนี้ ท่าทีดังกล่าวของไบเดนเป็นไปในทางเดียวกับนโยบายในยุคของอดีต ปธน.บารัค โอบามา ที่เห็นว่า โชกินไม่เดินหน้าปราบปรามการทุจริตมากพอ ซึ่งสหภาพยุโรปและกองทุนการเงินระหว่างประเทศก็สนับสนุนการปลดโชกินออกจากตำแหน่ง ด้วยเหตุผลดังกล่าวเช่นกัน
สมาชิกพรรครีพับลิกันอ้างว่า ไบเดนกดดันให้มีการถอดถอนดังกล่าวเพื่อปกป้องบริษัทเบอริสมา และฮันเตอร์ ไบเดน จากการถูกสอบสวนกรณีทุจริต อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ด้านนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ ให้การว่า บทบองของฮันเตอร์ ไบเดน ในเบอริสมา ไม่ได้มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของรัฐบาลสหรัฐฯ ในการกดดันเพื่อปลดโชกินออกจากตำแหน่ง
การดำเนินคดีต่อฮันเตอร์ ไบเดน
ฮันเตอร์ ไบเดน มีปัญหาด้านการติดสารเสพติดและแอลกอฮอล์ และถูกรัฐบาลกลางสืบสวนมาตั้งแต่ปี 2019
เมื่อเดือนกรกฎาคม ผู้พิพากษาไม่รับข้อเสนอให้ฮันเตอร์ ไบเดน ต่อรองการรับสารภาพ เพื่อให้เขายอมรับผิดข้อเลี่ยงภาษีและข้อหาครอบครองอาวุธ ขณะที่เดวิด วีส อัยการพิเศษสหรัฐฯ เผยว่า เขาจะตั้งข้อหาใหม่ต่อไบเดนภายในสิ้นเดือนนี้
เจ้าหน้าที่ของกรมสรรพากรสหรัฐฯ กล่าวกับคณะกรรมการกำกับดูแลว่า กระทรวงยุติธรรมสหรัฐฯ พยายามยับยั้งการสืบสวนมาหลายครั้ง อย่างไรก็ตาม เดวิด ไวส์ ที่ถูกแต่งตั้งโดยอดีต ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวว่า ทางกระทรวงไม่ได้เข้าไปแทรกแซงแต่อย่างใด โดยเมื่อเดือนสิงหาคม เมอร์ริค การ์แลนด์ เลื่อนตำแหน่งให้ไวส์เป็นที่ปรึกษาพิเศษเพื่อให้เขามีอำนาจและความเป็นอิสระมากขึ้น
อดีตเจ้าหน้าที่เอฟบีไอที่เคยสืบสวนกรณีดังกล่าว ระบุกับทางคณะกรรมการว่า เขาไม่ทราบว่ามีการนำการเมืองเข้ามาแทรกแซงคดีดังกล่าว แต่เขาก็ไม่พอใจที่ผู้มีอำนาจสั่งห้ามการสัมภาษณ์ฮันเตอร์ ไบเดน เมื่อเดือนธันวาคม 2020 หลังโจ ไบเดน ชนะเลือกตั้งได้ไม่นาน
- ที่มา: รอยเตอร์