Your browser doesn’t support HTML5
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ธนาคารและบริษัทการเงินชั้นนำในเมืองใหญ่ทั่วโลกต่างยกระดับแผนฉุกเฉินเพื่อรับมือกับการระบาดของไวรัสโควิด-19 หลังจากที่พนักงานของสำนักงานบริษัทต่างๆ ในนครนิวยอร์กถูกตรวจพบเชื้อไวรัส
บาร์เคลย์ส ธนาคารสัญชาติอังกฤษ แจ้งพนักงานว่า พนักงานคนหนึ่งของห้องค้าหุ้นในอาคารสำนักงานย่านมิดทาวน์ แมนฮัตตัน ที่นครนิวยอร์ก ถูกตรวจพบเชื้อไวรัสโควิด-19 และให้พนักงานที่ทำงานพบปะใกล้ชิดกับพนักงานคนดังกล่าวกักตัวตนเอง
เช่นเดียวกับบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่อย่างมอร์แกน สแตนลีย์ ที่ยืนยันว่า พนักงานคนหนึ่งในสำนักงานย่านเพอร์เชสของนครนิวยอร์ก ก็ถูกตรวจพบเชื้อไวรัสเช่นเดียวกัน
ทางด้านบริษัทซิตี้กรุ๊ปก็มีแผนรับมือเช่นกัน โดยแหล่งข่าวกล่าวว่า ทางบริษัทเตรียมแบ่งพนักงานทั้งหมดในทวีปอเมริกาเหนือออกเป็นสองกลุ่ม โดยแบ่งกะสลับกันทำงานจากสำนักงานและสถานที่อื่นๆ กะละ 1 สัปดาห์
ขณะที่ ธนาคารดอยช์ แบงก์ ของเยอรมันก็กระจายพนักงานค้าหุ้นของธนาคารไปตามสำนักงานต่างๆ ในนครแฟรงก์เฟิร์ต และวางแผนกระจายงานในสำนักงานในกรุงลอนดอน และประเทศอิตาลีและจีนเช่นเดียวกัน โดนดอยช์ แบงก์ กล่าวกับพนักงานว่า แผนงานนี้จะไม่กระทบการให้บริการลูกค้าเต็มรูปแบบ ซึ่งต้องอาศัยความร่วมมืออย่างยิ่งจากพนักงานทุกคน
ในวันเดียวกัน องค์การการค้าโลก หรือ WTO ออกแถลงการณ์ในวันอังคาร สั่งยกเลิกการประชุมของหน่วยงานทั้งหมดตั้งแต่วันพุธจนถึง 20 มีนาคมนี้ หลังได้รับการยืนยันแล้วว่ามีเจ้าหน้าที่ของ WTO ติดเชื้อแล้ว 1 ราย
เช่นเดียวกับทางสำนักงานกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯ หรือ SEC ได้ออกมาตรการให้เจ้าหน้าที่ทำงานจากบ้านในวันอังคาร หลังจากพบว่ามีเจ้าหน้าที่ 1 รายล้มป่วยและเข้ารับการรักษาโคโรนาไวรัส ตามรายงานของรอยเตอร์ส