ไต้หวันขอความช่วยเหลือไปทางออสเตรเลียเพื่อช่วยสนับสนุนความร่วมมือทางการทหาร หลังจากเกิดเหตุการณ์เครื่องบินรบไอพ่นของกองทัพจีนรุกล้ำเขตแสดงตนเพื่อการป้องกันตนเองทางอากาศของไต้หวันในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา
ปัจจุบัน ออสเตรเลียคือหนึ่งในหลายประเทศที่ยังไม่ได้ยอมรับการประกาศตัวเป็นอิสระของไต้หวันอย่างเป็นทางการ แต่ทั้งออสเตรเลียกับไต้หวันต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันทั้งทางเศรษฐกิจและสังคม
รัฐมนตรีต่างประเทศของไต้หวัน โจเซฟ หวู กล่าวในสัปดาห์นี้ กระตุ้นให้ออสเตรเลียเพิ่มความร่วมมือด้านการแบ่งปันข่าวกรองและความมั่นคง ท่ามกลางความตึงเครียดกับจีนแผ่นดินใหญ่ที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลีย แถลงเมื่อวันจันทร์ว่า การจัดการความขัดแย้งแตกต่างในประเด็นต่าง ๆ รวมทั้งกรณีของไต้หวัน ควรเป็นไปอย่างสันติผ่านการเจรจา โดยไม่มีการข่มขู่หรือใช้กำลังทหาร
SEE ALSO: ไต้หวันตรวจพบ จีนส่งเครื่องบินรบ 52 ลำเข้าน่านฟ้าตน
คำแถลงดังกล่าวสอดคล้องกับแถลงการณ์ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ที่แสดงความกังวลอย่างยิ่งต่อแรงกดดันจากจีนที่มีต่อไต้หวันในขณะนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว ออสเตรเลียและสหรัฐฯ ประกาศแผนกระชับความสัมพันธ์กับไต้หวัน โดยระบุว่า "ไต้หวันคือผู้นำด้านประชาธิปไตยและเป็นพันธมิตรสำคัญของทั้งสองประเทศ"
ริชาร์ด แม็คเกรเกอร์ นักวิชาการด้านเอเชียตะวันออกที่สถาบันวิจัยด้านนโยบาย Lowy Institute ในนครซิดนีย์ ชี้ว่า ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ ออสเตรเลีย กับไต้หวัน ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นในช่วงเวลาวิกฤติเช่นนี้ และว่า ออสเตรเลียกำลังยืนอยู่บนจุดที่ยากลำบาก เพราะอเมริกาอาจขอให้ออสเตรเลียให้การสนับสนุนทางทหารต่อไต้หวัน ในขณะที่จีนก็ถือเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับหนึ่งของออสเตรเลียเช่นกัน
SEE ALSO: เรือดำน้ำพลังนิวเคลียร์จากความร่วมมือด้านความมั่นคงสหรัฐฯ-อังกฤษ-ออสเตรเลียจะท้าทายอำนาจจีนในมหาสมุทรแปซิฟิก
อย่างไรก็ตาม ความสัมพันธ์ทางการค้าระหว่างจีนกับออสเตรเลียค่อนข้างตึงเครียดในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เนื่องจากปัจจัยทางภูมิศาสตร์การเมืองโลก การทูตและข้อพิพาทด้านการค้า
และเมื่อเดือนที่แล้ว ออสเตรเลียก็เพิ่งลงนามในข้อตกลงความร่วมมือด้านความมั่นคงไตรภาคี AUKUS กับสหรัฐฯ และอังกฤษ ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลกรุงปักกิ่งอย่างมากเช่นกัน