Your browser doesn’t support HTML5
หลังจากที่ประเทศไทยชะลอเเผนฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซนเนกา เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลายคนคงอยากจะทราบว่าภาพรวมของเเนวทางปฏิบัติของประเทศต่างๆ ในโลกเป็นอย่างไร
สำนักข่าว Associated Press หรือเอพี รายงานว่ารวมกันเเล้วมีอย่างน้อย 12 ประเทศที่เลื่อนการใช้วัคซีนดังกล่าว โดยนอกจากไทยแล้วยังมี เยอรมนี ฝรั่งเศส อิตาลี และสเปน เป็นต้น
การเลื่อนตารางการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกาออกไป เกิดขึ้นหลังจาก มีคนในประเทศเดนมาร์กที่เกิดปัญหาเรื่องลิ่มเลือด
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่การแพทย์ของยุโรปแห่งหน่วยงาน European Medicines Agency และองค์การอนามัยโลก ไม่พบว่าวัคซีนคือสาเหตุของความเจ็บป่วยดังกล่าว
ทั้งสององค์กรยังได้ เเนะนำให้ผู้คนไปฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19
เมื่อย้อนกลับไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเดนมาร์กประกาศระงับใช้วัคซีนโควิด-19 ของบริษัทแอสตราเซเนกา ชั่วคราวเป็นเวลา 14 วัน ระหว่างที่กำลังตรวจสอบรายงานที่ว่ามีผู้ป่วยบางคนเกิดปัญหาลิ่มเลือดหลังจากได้รับวัคซีนดังกล่าว
รัฐมนตรีสาธารณสุขเดนมาร์ก แมกนัส ฮิวนิกเก้ กล่าวว่า ทางการกำลังตรวจสอบว่าวัคซีนโควิดของแอสตราเซเนกาทำให้เกิดผลข้างเคียงร้ายแรงในลักษณะของลิ่มเลือดหรือไม่ และว่าคำสั่งระงับครั้งนี้เป็นเพียงการระวังป้องกัน และยังไม่มีการสรุปใดๆ ว่าลิ่มเลือดที่เกิดขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับวัคซีนหรือไม่
การ “เหยียบเบรค” สำหรับการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกายังเกิดขึ้นที่ประเทศนอร์เวย์ ไอซ์แลนด์ บัลกาเรีย คองโก และไทย
เมื่อวันเสาร์ เจ้าหน้าที่นอร์เวย์ รายงานว่ามีประชาชนสี่คน ที่อายุตำ่กว่า 50 ปี และได้รับวัคซีนของแอสตราเซเนกา มีระดับเกล็ดเลือดตำ่กว่าปกติ ความผิดปกติดังกล่าวอาจนำไปสู่อาการเลือดออกอย่างรุนเเรง ประเทศเนเธอร์เเลนด์ และไอร์เเลนด์ออกประกาศลักษณะเดียวกันและระงับการใช้วัคซีนของแอสตราเซเนกา
รัฐมนตรีสาธารณสุขเนเธอร์เเลนด์ฮิวโก เด จองจ์ กล่าวว่า ในกรณีนี้ ทางกระทรวงยอมที่จะต้องใช้ความระมัดระวังมากเกินไป
ในวันจันทร์ เยอรมนีที่เคยกล่าวว่าจะเดินหน้าฉีดวัคซีนของแอสตราเซเนกา ตัดสินใจเลื่อนเเผนดังกล่าวออกไป หลังพบรายงานปัญหาสุขภาพเพิ่มเติม
ในส่วนของทางบริษัทผู้พัฒนาวัคซีน แอสตราเซเนกา กล่าวว่าได้ศึกษาข้อมูลผู้ได้รับวัคซีนเเล้ว 17 ล้านคนในยุโรปอย่างละเอียด และบริษัทพบว่า มีกรณีการเกิดลิ่มเลือดในผู้รับวัคซีนทั้งหมด 37 ราย และไม่มีหลักฐานที่ชี้ว่า วัคซีนทำให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้นต่อกลุ่มประชากร ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุ หรือเพศใดในประเทศต่างๆ
และเมื่อพิจารณาถึงข้อมูลจากเจ้าหน้าที่สาธารณสุขที่ยุโรป สำนักข่าวเอพีรายงานว่า หน่วยงาน European Medicines Agency หรือ EMA ระบุว่า ไม่มีข้อบ่งชี้ถึงปัญหาเกล็ดเลือดที่เกิดจากวัคซีนดังกล่าว
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่สาธารณสุขของสหภาพยุโรปยังคงวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดอย่างครบถ้วน และระบุด้วยว่า ขณะที่การตรวจสอบดำเนินไป วัคซีนของแอสตราเซเนกา มีข้อดีมากกว่า ความเป็นไปได้ว่าจะเกิดผลข้างเคียง
ทั้งนี้ EMA จะหารือกับคณะผู้เชี่ยวชาญภายใน ในวันอังคารและวันพฤหัสบดี เพื่อพิจารณาถึงแนวทางในลำดับต่อไป
นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าโดยทั่วไป เมื่อมีการใช้วัคซีนใดๆ ต่อประชากรหลายล้านคน เป็นที่คาดหมายว่าจะมีรายงานเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพและการเสียชีวิต เพราะขนาดกลุ่มของการศึกษาที่ใหญ่ ทำให้มีความเป็นไปได้ที่จะพบคนป่วยและเสียชีวิต โดยไม่จำเป็นว่าเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเนื่องจากการรับวัคซีน