สมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือ อาเซียน แถลงในวันพฤหัสบดีว่า ได้บรรลุข้อตกลงกับจีนที่จะยกระดับความสัมพันธ์ของทั้งสองฝ่ายไปเป็น "พันธมิตรเชิงยุทธศาสตร์แบบครอบคลุม" หรือ comprehensive strategic partnership ตามรายงานของสำนักข่าวรอยเตอร์
เมื่อวันพุธ อาเซียนเพิ่งบรรลุข้อตกลงยกระดับความสัมพันธ์ลักษณะเดียวกันกับออสเตรเลีย ซึ่งถือเป็นชัยชนะเชิงสัญลักษณ์ของรัฐบาลกรุงแคนเบอร์ราที่สามารถจัดทำข้อตกลงดังกล่าวกับอาเซียนได้ก่อนจีน
โดยที่ผ่านมา ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้กลายเป็นสมรภูมิเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างรัฐบาลจีนกับรัฐบาลกรุงวอชิงตันที่มีออสเตรเลียเป็นพันธมิตรสำคัญ
"เมียนมายังคงเป็นส่วนสำคัญของอาเซียน"
สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่านแห่งบรูไน ฮัสซานัล โบลเกียห์ ในฐานะประธานอาเซียนในปีนี้ ทรงแถลงข่าวเรื่องการยกระดับความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับจีนในวันพฤหัสบดีที่กรุงบันดาร์เสรีเบกาวัน นอกจากนี้ทรงได้ระบุถึงอนาคตของเมียนมาในสมาคมอาเซียน หลังจากที่ผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมาไม่ได้รับเชิญเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียนในสัปดาห์นี้
สุลต่านแห่งบรูไน ตรัสว่า เมียนมายังคงเป็นส่วนสำคัญของ "ครอบครัวอาเซียน" และสถานะความเป็นสมาชิกภาพของเมียนมายังคงดำรงอยู่เช่นเดิม
สมาคมอาเซียนระบุว่า พลเอกมิน อ่อง หล่าย ไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมประชุมเพราะไม่สามารถปฏิบัติตาม "ฉันทามติ 5 ข้อ" ซึ่งตกลงไว้กับอาเซียนเมื่อเดือนเมษายน ซึ่งรวมถึงการยุติความรุนแรง เริ่มการเจรจาและอำนวยความสะดวกให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปในเมียนมา ตลอดจนอนุญาตให้ผู้แทนของอาเซียนเดินทางไปยังเมียนมาเพื่อไกล่เกลี่ยความขัดแย้งด้วย
อย่างไรก็ตาม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศมาเลเซีย ซาอีฟัดดิน อับดุลลาห์ กล่าวว่า ยังไม่ชัดเจนว่าเมียนมาจะเข้าร่วมการประชมสุดยอดของอาเซียนในอนาคตได้หรือไม่ และยังไม่สามารถยืนยันได้เช่นกันว่า เมียนมาจะยังคงเป็นส่วนหนึ่งในการจัดประชุมของสมาคมอาเซียนต่อไปหรือไม่