Your browser doesn’t support HTML5
ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถานเมื่อกลุ่มตาลิบันก้าวขึ้นมามีอำนาจในการปกครองประเทศ ผู้ที่ติดตามการเมืองระหว่างประเทศ มองว่าจีนจะขับเคลื่อนนโยบายของตนอย่างไรต่อจากนี้
ท่าทีของรัฐบาลปักกิ่งเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งเนื่องจาก สหรัฐฯในฐานะมหาอำนาจที่เคยช่วยเหลือรัฐบาลอัฟกันมาสองทศวรรษ กำลังเดินตามแผนถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน
ในวันอังคารนาย หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวเเสดงความเต็มใจที่จะพูดคุยกับสหรัฐฯที่จะ “หาทางลง” ที่ไม่ให้เกิดความรุนเเรงในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตามเขาวิจารณ์สหรัฐฯว่าอเมริกาถอนทหารออกอย่างเร่งรีบ
แถลงการณ์ ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่ารัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯแอนโทนี บลิงเคน และรัฐมนตรี หวัง อี้ ได้คุยกันทางโทรศัพท์ โดยทั้งคู่หารือกันเกี่ยวกับความมั่นคงและแผนนำประชาชนของตนออกจากอัฟกานิสถาน
รัฐมนตรี หวัง อี้ กล่าวว่าจีนจะพยายามช่วยให้ไม่เกิดหายนะด้านมนุษยธรรมในอัฟกานิสถาน และจะไม่ปล่อยให้ที่นั่นเป็นแหล่งผลิตและหลบซ่อนของผู้ก่อการร้าย
แม้จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจน นักวิเคราะห์กล่าวว่ารัฐบาลปักกิ่ง มีความหวั่นใจระดับหนึ่งว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ในอัฟกานิสถาน
ผู้สันทัดกรณีบางคนกล่าวด้วยว่า ทางการจีนอาจไม่ทุ่มเททรัพยากรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงให้กับอัฟกานิสถานภายใต้ตาลิบันมากนักในอนาคตอันใกล้นี้
Your browser doesn’t support HTML5
แอนดรูว์ สมอลล์ นักวิจัยอาวุโสที่หน่วยงาน German Marshall Fund แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่าในที่สุดเเล้วทางการปักกิ่งคงจะยอมรับรัฐบาลอัฟกานิสถานภายใต้ตาลิบันอย่างเป็นทางการ เเต่ขณะเดียวกันก็น่าจะกังวลต่อความเสี่ยงเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจในอัฟกานิสถาน หลังอเมริกาถอนทหาร
นักวิเคราะห์ผู้นี้ให้สัมภาษณ์วีโอเอผ่านสไกป์ว่า รัฐบาลปักกิ่ง “ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ยากลำบาก ที่มีความลังเลใจ หรือบางครั้งเป็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับกลุ่มตาลิบัน”
เขาจึงไม่เชื่อว่า จากนี้จะได้เห็นการแผ่อำนาจทางเศรษฐกิจของจีนอย่างกว้างขวางในเวลาอันรวดเร็วในอัฟกานิสถาน
แอนดรูว์ สมอลล์ บอกว่า จีนจะดำเนินโยาย “อย่างค่อนข้างระมัดระวัง และกังวลว่าจะเกิดอะไรต่อไปในอนาคต”
ส่วน เซธ โจนส์ ผู้อำนวยการโครงการความมั่นคงระหว่างประเทศ แห่งหน่วยงาน Center for Strategic and International Studies หรือ CSIS ที่กรุงวอชิงตัน คิดว่าคงเป็นการยากที่สหรัฐฯ และจีนจะร่วมมือกันอย่างเเนบเเน่นและกว้างขวางในอัฟกานิสถาน
เขากล่าวว่าอัฟกานิสถานมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์ในแผนเครือข่ายระบบโครงสร้างพื้นฐานข้ามประเทศของจีน ภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative
เซธ โจนส์ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอผ่านสไกป์ว่า โครงการที่อเมริกาเเละจีนน่าจะร่วมมือกันได้อย่างคืบหน้ามากกว่าเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนา อาจจะอยู่ในงานประเภทความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพื่อป้องกันประชาชนอัฟกันจากการตกเป็นเหยื่อความโหดร้ายเเละป่าเถื่อน
โฆษกของทางการจีนหัว ชุนหยิงกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า จีนเปิดช่องทางการพูดคุยกับฝ่ายตาลิบัน “บนพื้นฐานของการเคารพอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ของอัฟกานิสถานและเจตจำนงของคนทุกฝ่ายในประเทศ”
ท่าทีเช่นนี้เกิดขึ้นขณะที่อเมริกากำลังลดบทบาทของตนเอง จึงไม่น่าแปลกที่เซธ โจนส์ แห่ง CSIS กล่าวว่า ความจริงที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ “จีนกำลังพยายามเเทรกตัวเข้าไปอยู่ในสุญญากาศ ที่อเมริกากำลังถอนตัวจากอัฟกานิสถาน"