วิเคราะห์ท่าทีจีนเมื่อ 'รัฐบาลปักกิ่ง' บอกพร้อมร่วมงานกับ 'ตาลิบัน'

In this photo released by China's Xinhua News Agency, Taliban co-founder Mullah Abdul Ghani Baradar, left, and Chinese Foreign Minister Wang Yi pose for a photo during their meeting in Tianjin, China, July 28, 2021.

Your browser doesn’t support HTML5

Afghanistan US China


ท่ามกลางความวุ่นวายที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถานเมื่อกลุ่มตาลิบันก้าวขึ้นมามีอำนาจในการปกครองประเทศ ผู้ที่ติดตามการเมืองระหว่างประเทศ มองว่าจีนจะขับเคลื่อนนโยบายของตนอย่างไรต่อจากนี้

ท่าทีของรัฐบาลปักกิ่งเป็นที่น่าสนใจอย่างยิ่งเนื่องจาก สหรัฐฯในฐานะมหาอำนาจที่เคยช่วยเหลือรัฐบาลอัฟกันมาสองทศวรรษ กำลังเดินตามแผนถอนทหารออกจากอัฟกานิสถาน

ในวันอังคารนาย หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของจีน กล่าวเเสดงความเต็มใจที่จะพูดคุยกับสหรัฐฯที่จะ “หาทางลง” ที่ไม่ให้เกิดความรุนเเรงในอัฟกานิสถาน อย่างไรก็ตามเขาวิจารณ์สหรัฐฯว่าอเมริกาถอนทหารออกอย่างเร่งรีบ

Afghan citizens pack inside a U.S. Air Force C-17 Globemaster III, as they are transported from Hamid Karzai International Airport in Afghanistan, Sunday, Aug. 15, 2021. The Taliban on Sunday swept into Kabul, the Afghan capital, after capturing most of

แถลงการณ์ ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุว่ารัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯแอนโทนี บลิงเคน และรัฐมนตรี หวัง อี้ ได้คุยกันทางโทรศัพท์ โดยทั้งคู่หารือกันเกี่ยวกับความมั่นคงและแผนนำประชาชนของตนออกจากอัฟกานิสถาน

รัฐมนตรี หวัง อี้ กล่าวว่าจีนจะพยายามช่วยให้ไม่เกิดหายนะด้านมนุษยธรรมในอัฟกานิสถาน และจะไม่ปล่อยให้ที่นั่นเป็นแหล่งผลิตและหลบซ่อนของผู้ก่อการร้าย

แม้จะเป็นสัญญาณที่ชัดเจน นักวิเคราะห์กล่าวว่ารัฐบาลปักกิ่ง มีความหวั่นใจระดับหนึ่งว่าจะเกิดอะไรขึ้นจากนี้ในอัฟกานิสถาน

ผู้สันทัดกรณีบางคนกล่าวด้วยว่า ทางการจีนอาจไม่ทุ่มเททรัพยากรทางเศรษฐกิจและความมั่นคงให้กับอัฟกานิสถานภายใต้ตาลิบันมากนักในอนาคตอันใกล้นี้

Your browser doesn’t support HTML5

'ตาลิบัน' เผยเตรียมตั้งรัฐบาลอิสลามใหม่ หลังเดินหน้ารวบอำนาจอัฟกานิสถาน

แอนดรูว์ สมอลล์ นักวิจัยอาวุโสที่หน่วยงาน German Marshall Fund แห่งสหรัฐฯ กล่าวว่าในที่สุดเเล้วทางการปักกิ่งคงจะยอมรับรัฐบาลอัฟกานิสถานภายใต้ตาลิบันอย่างเป็นทางการ เเต่ขณะเดียวกันก็น่าจะกังวลต่อความเสี่ยงเรื่องเสถียรภาพทางการเมืองและเศรษฐกิจในอัฟกานิสถาน หลังอเมริกาถอนทหาร

นักวิเคราะห์ผู้นี้ให้สัมภาษณ์วีโอเอผ่านสไกป์ว่า รัฐบาลปักกิ่ง “ยังคงมีความสัมพันธ์ที่ยากลำบาก ที่มีความลังเลใจ หรือบางครั้งเป็นความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดกับกลุ่มตาลิบัน”

เขาจึงไม่เชื่อว่า จากนี้จะได้เห็นการแผ่อำนาจทางเศรษฐกิจของจีนอย่างกว้างขวางในเวลาอันรวดเร็วในอัฟกานิสถาน

แอนดรูว์ สมอลล์ บอกว่า จีนจะดำเนินโยาย “อย่างค่อนข้างระมัดระวัง และกังวลว่าจะเกิดอะไรต่อไปในอนาคต”

ส่วน เซธ โจนส์ ผู้อำนวยการโครงการความมั่นคงระหว่างประเทศ แห่งหน่วยงาน Center for Strategic and International Studies หรือ CSIS ที่กรุงวอชิงตัน คิดว่าคงเป็นการยากที่สหรัฐฯ และจีนจะร่วมมือกันอย่างเเนบเเน่นและกว้างขวางในอัฟกานิสถาน

เขากล่าวว่าอัฟกานิสถานมีความสำคัญทางภูมิศาสตร์ในแผนเครือข่ายระบบโครงสร้างพื้นฐานข้ามประเทศของจีน ภายใต้โครงการ Belt and Road Initiative

เซธ โจนส์ให้สัมภาษณ์กับวีโอเอผ่านสไกป์ว่า โครงการที่อเมริกาเเละจีนน่าจะร่วมมือกันได้อย่างคืบหน้ามากกว่าเรื่องยุทธศาสตร์การพัฒนา อาจจะอยู่ในงานประเภทความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เพื่อป้องกันประชาชนอัฟกันจากการตกเป็นเหยื่อความโหดร้ายเเละป่าเถื่อน

Afghanistan

โฆษกของทางการจีนหัว ชุนหยิงกล่าวในสัปดาห์นี้ว่า จีนเปิดช่องทางการพูดคุยกับฝ่ายตาลิบัน “บนพื้นฐานของการเคารพอธิปไตยอย่างสมบูรณ์ของอัฟกานิสถานและเจตจำนงของคนทุกฝ่ายในประเทศ”

ท่าทีเช่นนี้เกิดขึ้นขณะที่อเมริกากำลังลดบทบาทของตนเอง จึงไม่น่าแปลกที่เซธ โจนส์ แห่ง CSIS กล่าวว่า ความจริงที่เกิดขึ้นในขณะนี้คือ “จีนกำลังพยายามเเทรกตัวเข้าไปอยู่ในสุญญากาศ ที่อเมริกากำลังถอนตัวจากอัฟกานิสถาน"