Your browser doesn’t support HTML5
สายการบิน อเมริกัน แอร์ไลนส์ และเซาท์เวสต์ แอร์ไลนส์ ของสหรัฐฯ เผยแผนทบทวนตารางการบินของตนในช่วงระหว่างเดือนสิงหาคมและเดือนกันยายน หลังอัตราการระบาดของโควิด-19 ในหลายรัฐทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง
สำนักข่าว รอยเตอร์ส รายงานว่า สายการบินทั้งสองแห่งนี้เดิมวางแผนตารางการบินเต็มกว่าคู่แข่งอื่นๆ เช่น เดลตา แอร์ไลน์ส และยูไนเต็ด แอร์ไลนส์ ในช่วงเดือนพฤษภาคมและเดือนมิถุนายน เพื่อหวังช่วงชิงส่วนแบ่งการตลาดจากการที่ผู้คนทั่วสหรัฐฯ เริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติมากขึ้น เนื่องจากการปลดล็อคมาตรการล็อคดาวน์และควบคุมการระบาด แม้จะยอมรับว่า ความต้องการผู้โดยสารจะยังไม่มีโอกาสกลับคืนสู่ระดับก่อนการระบาดจนกว่าการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 จะประสบความสำเร็จ
สายการบิน อเมริกัน แอร์ไลนส์ ซึ่งเป็นสายการบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก คาดการณ์ว่า จำนวนผู้โดยสารที่จะใช้บริการของตนในไตรมาสที่ 3 น่าจะลดลงราว 60 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และขณะนี้ กำลังทบทวนแผนงานต่างๆ สำหรับไตรมาสที่ 4 อยู่
ขณะเดียวกัน เซาท์เวสต์ แอร์ไลนส์ เปิดเผยว่า รายได้ของบริษัทเริ่มลดลงหนัก โดยค่าเฉลี่ยของอัตราการเผาสำรองเงินสด หรือ Cash Burn Rate ต่อวันในเดือนกรกฎาคมอยู่ที่ 18 ล้านดอลลาร์ ซึ่งสูงขึ้นจากระดับ 16 ล้านดอลลาร์ในเดือนมิถุนายนอย่างเห็นได้ชัด ขณะที่ประเมินว่า ตัวเลขนี้น่าจะพุ่งขึ้นเป็น 23 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ในไตรมาสที่ 3 ด้วย แม้ว่านักวิเคราะห์จะคาดไว้ว่า บริษัทน่าจะรับมือกับผลกระทบของการระบาดใหญ่ของโควิด-19 ได้ดีกว่าผู้ให้บริการรายใหญ่อื่นๆ เนื่องจากสายการบินแห่งนี้มุ่งเน้นแต่บริการการบินในประเทศและมีโครงสร้างแบบสายการบินต้นทุนต่ำ
ทั้งนี้ อุตสาหกรรมการบินของสหรัฐฯ ได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลมูลค่ารวม 25,000 ล้านดอลลาร์เพื่อช่วยรองรับค่าใช้จ่ายด้านเงินเดือนและค่าแรงไปจนถึงเดือนกันยายน ขณะที่สหภาพแรงงานต่างๆ กำลังพยายามล็อบบี้ให้รัฐออกแผนช่วยเหลือรอบสอง เพื่อช่วยพนักงานและคนงานของสายการบินทั้งหลายให้อยู่รอดได้จนถึงเดือนมีนาคมของปีหน้าอยู่