สำนักข่าวอัลจาซีราประณามอิสราเอลที่เดินหน้าโจมตีฉนวนกาซ่าจนทำให้ผู้สื่อข่าวสองรายเสียชีวิตระหว่างการเดินทางไปรายงานข่าวสถานการณ์ใกล้เมืองราฟาห์ซึ่งอยู่ติดพรมแดนอียิปต์
ทางการของฉนวนกาซ่าที่ควบคุมโดยกลุ่มฮามาสรายงานว่า ผู้สื่อข่าวสองคนเสียชีวิตเพราะการโจมตีทางอากาศของอิสราเอล โดยผู้เสียชีวิตรายแรกคือ มุสตาฟา ธูริอะ เป็นช่างถ่ายภาพรับจ้างของสื่อเอเอฟพี ส่วนเหยื่ออีกรายคือ ฮัมซา อัล-ดาห์ดูห์ ซึ่งเป็นผู้สื่อข่าวรับจ้างของอัลจาซีราและเป็นบุตรชายของ วาเอล อัล-ดาห์ดูห์ หัวหน้าสำนักงานข่าวอัลจาซีราในกาซ่า
ในการโจมตีดังกล่าว มีเหยื่ออีกราย ซึ่งก็คือ ฮาเซม ราจาบ ผู้สื่อข่าวฟรีแลนซ์ที่เพียงได้รับบาดเจ็บ
ในช่วงเริ่มต้นของสงครามในกาซ่า วาเอล อัล-ดาห์ดูห์ สูญเสียภรรยา บุตร 2 คนและหลานชาย 1 คนไปแล้ว ขณะที่ ตัวของเขาเองก็เกือบเสียชีวิตไปด้วย
สำนักข่าวอัลจาซีราซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในกาตาร์ออกแถลงการณ์ที่ระบุว่า การสังหารผู้สื่อข่าวครั้งล่าสุดนี้ของอิสราเอลแสดงให้เห็นถึง “ความมุ่งมั่นของกองกำลังอิสราเอลที่จะเดินหน้าทำการโจมตีอย่างโหดร้ายเข้าใส่ผู้สื่อข่าวและครอบครัวของพวกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยจุดมุ่งหมายที่จะทำให้[ผู้สื่อข่าวต่าง ๆ]ไม่ออกไปทำภารกิจที่ได้รับมอบหมาย อันเป็นการยังละเมิดหลักการว่าด้วยเสรีภาพของสื่อด้วย”
อัลจาซีรายังเร่งเร้าให้ “ศาลอาญาระหว่างประเทศ รัฐบาลต่าง ๆ องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนทั้งหลายและองค์การสหประชาชาติจัดการให้อิสราเอลออกมารับผิดชอบต่ออาชญากรรมอันชั่วรายทั้งหลายของตน” และเรียกร้องให้ “มีการยุติการพุ่งเป้าจัดการและการสังหารผู้สื่อข่าว” ด้วย
ทั้งนี้ อิสราเอลยังไม่ได้ออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการโจมตีดังกล่าว และในแถลงการณ์ที่ออกมาเมื่อวันที่ 16 ธันวาคมและมีเนื้อความตอบประเด็นการเสียชีวิตของผู้สื่อข่าวรายหนึ่งของอัลจาซีราในกาซ่า โดยกองทัพอิสราเอลระบุว่า “IDF (กองกำลังป้องกันอิสราเอล) ไม่เคย และจะไม่จงใจพุ่งเป้าเข้าใส่ผู้สื่อข่าวเป็นอันขาด”
ในช่วง 10 สัปดาห์แรกของสงครามอิสราเอล-ฮามาสนั้น มีผู้สื่อข่าวและเจ้าหน้าที่ของสื่อต่าง ๆ จำนวน 77 คนที่เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่ในฉนวนกาซ่า ตามข้อมูลของ Committee to Protect Journalists ซึ่งเป็นองค์กรเฝ้าระวังของสื่อระหว่างประเทศ โดย 70 คนเป็นชาวปาเลสไตน์ 4 คนเป็นชาวอิสราเอลและ 3 คนเป็นชาวเลบานอน
หลังเกิดเหตุครั้งล่าสุด อัลจาซีราโพสต์คลิปวิดีโอของ วาเอล อัล-ดาห์ดูห์ ร้องไห้ขณะกุมมือของร่างไร้วิญญาณของบุตรชายอยู่ และภายหลังเสร็จสิ้นพิธีฝังศพแล้ว อัล-ดาห์ดูห์ ระบุในคำแถลงที่มีการถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ว่า ผู้สื่อข่าวทั้งหลายในกาซ่าจะเดินหน้าทำหน้าที่ของตนต่อไป และว่า “สิ่งที่โลกทั้งโลกต้องการก็คือ การได้เห็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นที่นี่”
ทั้งนี้ โฆษกกองทัพอิสราเอลกล่าวเมื่อวันเสาร์ว่า กองกำลังอิสราเอลได้เสร็จสิ้นการทำลายล้าง “เครือข่ายทางทหาร” ของกลุ่มฮามาสทางตอนเหนือของกาซ่าไปแล้ว โดยได้สังหารนักรบติดอาวุธไปราว 8,000 คนในพื้นที่ดังกล่าวและยังได้ยึดอาวุธหลายหมื่นชิ้น รวมทั้งเอกสารหลายล้านฉบับมาไว้ด้วย
พลเรือตรีแดเนียล ฮาการิ โฆษกกองทัพอิสราเอล กล่าวในการแถลงข่าวผ่านระบบออนไลน์ด้วยว่า อิสราเอลกำลังพุ่งเป้าไปยังการสลายกลุ่มฮามาสในพื้นที่ภาคกลางและภาคใต้ของฉนวนกาซ่าอยู่ พร้อมยอมรับว่า ภารกิจนี้จะใช้เวลานานพอควร โดยอธิบายว่า ขั้นตอนดำเนินการแผนงานนี้แตกต่างจากสิ่งที่อิสราเอลทำในพื้นที่ตอนเหนือของกาซ่า และชี้ว่า “ค่ายผู้ลี้ภัยในภาคกลางของฉนวนกาซ่านั้นมีความแออัดและเต็มไปด้วยผู้ก่อการร้าย”
เมื่อวันเสาร์เช่นกัน นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ระบุในแถลงการณ์ว่า สงครามต่อต้านฮามาสนั้น “ต้องไม่ถูกหยุดยั้ง” จนกว่าอิสราเอลจะบรรลุเป้าหมายหลัก 3 ข้อ ได้แก่ “การกำจัดฮามาส การนำตัวประกันของเรากลับคืนมาและการทำให้มั่นใจว่า กาซ่าจะไม่เป็นภัยคุกคามต่ออิสราเอลอีกต่อไป”
- ข้อมูลบางส่วนมาจากเอพี เอเอฟพีและรอยเตอร์