กองทัพยูเครนประกาศในวันจันทร์ว่า ทหารที่ถอยร่นออกจากเมืองอัฟดิอิฟกาที่ถูกรัสเซียเข้ายึดครองเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้ปักหลักตั้งแนวป้องกันใหม่ในภาคตะวันออกเพื่อรับมือการรุกคืบของรัสเซียแล้ว
รัสเซียสามารถยึดเมืองอัฟดิอิฟกาได้อย่างเบ็ดเสร็จเมื่อวันอาทิตย์ หลังจากที่ทหารยูเครนถอนกำลังออกไป ถือเป็นชัยชนะในสนามรบครั้งใหญ่ที่สุดของรัสเซียในรอบ 9 เดือนนับตั้งแต่ยึดเมืองบาคห์มุตได้เมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว
การสูญเสียเมืองอัฟดิอิฟกาถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของสงครามครั้งนี้ที่ทำให้โมเมนตัมเหวี่ยงกลับไปทางฝั่งรัสเซียอีกครั้ง หลังจากที่ยูเครนไม่สามารถเพิ่มกำลังทหารและอาวุธยุทโธปกรณ์ได้ ในขณะที่การเมืองภายในของสหรัฐฯ กำลังส่งผลกระทบถึงความช่วยเหลือสำหรับยูเครนที่ยังคงไม่ได้รับการอนุมัติในรัฐสภาอเมริกัน
พลจัตวาแห่งกองทัพยูเครน โอเลกซานเดอร์ ทาร์นาฟสกี ระบุทางสื่อเทเลแกรมว่า "กองทัพยูเครนได้จัดตั้งแนวรับใหม่และสามารถตอบโต้ความพยายามรุกไล่ของกองทัพรัสเซียไว้ได้สำเร็จ"
Your browser doesn’t support HTML5
การยึดเมืองอัฟดิอิฟกาโดยรัสเซียทำให้ยูเครนต้องถอยร่นห่างไปจากเมืองดอแนตสก์ ซึ่งเป็นศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งในเขตปกครองดอแนตสก์ซึ่งถูกรัสเซียยึดครองไปในช่วงเริ่มต้นของสงคราม และยังเป็นเส้นทางลำเลียงเสบียงของกองทัพรัสเซียในภาคตะวันออกของยูเครนด้วย
ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน กล่าวถึงการยึดเมืองอัฟดิอิฟกาว่า เป็นชัยชนะครั้งสำคัญ โดยทางการกรุงมอสโกกล่าวว่า ทหารยูเครนถอยร่นอย่างกระจัดกระจายและโกลาหล มีทหารและอาวุธบางส่วนถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
เซอร์เฮย์ ซกูเรตส์ ผอ.สถาบันที่ปรึกษา Defence Express ในกรุงเคียฟ เชื่อว่า ขณะนี้รัสเซียมีทหารราว 80,000 คนกระจายกำลังรอบเมืองบาคห์มุต และอีก 40,000 คนรอบเมืองอัฟดิอิฟกา โดยคาดว่า กองทัพรัสเซียจะพยายามขยายกำลังตามแนวหน้ารอบเมืองมาริอินกา และรุกคืบครั้งใหม่ที่เมืองวูห์เลดาร์ซึ่งทหารยูเครนครอบครองอยู่
โอเลห์ ซดานอฟ นักวิเคราะห์ด้านการทหารในกรุงเคียฟ ชี้ว่า รัสเซียจะเดินหน้ายึดครองดินแดนให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะพื้นที่รอบ ๆ เขตปกครองที่ประธานาธิบดีปูตินประกาศว่าเป็นของรัสเซีย ได้แก่ ดอแนตสก์ ลูฮันสก์ เคอร์ซอน และซาปอริซห์เซีย ซึ่งยังไม่ได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก
- ที่มา: รอยเตอร์