Your browser doesn’t support HTML5
“ชื่อนั้นสำคัญไฉน” Walt Disney ผู้ผลิตภาพยนตร์ฮิตติดต่อกันมาทุกปีบอกว่า ไม่เชื่อก็ลองดูจำนวนคนอเมริกันที่คุณพ่อคุณแม่ตั้งชื่อตามตัวละครในหนังของ Disney ดูก็ได้
อาจารย์ Justin Wolfers เป็นนักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย Michigan แต่กล่าวได้ว่าเป็นผู้สนใจในอิทธิพลของภาพยนตร์ต่อวัฒนธรรมร่วมสมัย เลยค้นคว้าเรื่องนี้และเขียนบทความไปลงไว้ในหนังสือพิมพ์ The New York Times
นักวิชาการผู้นี้ตรวจดูทะเบียนการประกันสังคม ซึ่งรวมตัวเลขล่าสุดของปี ค.ศ. 2014 ไว้ด้วย และพบว่า ตัวละครหลายตัวในภาพยนตร์เรื่อง “Frozen” ช่วยให้เด็กเกิดใหม่หลายคนในอเมริกามีชื่อที่คุณพ่อคุณแม่ชื่นชอบ
ตัวอย่างเช่น ชื่อ Elsa ซึ่งนับเป็นครั้งแรกตั้งแต่ปี ค.ศ. 1917 หรือเกือบ 100 ปีมาแล้วที่ชื่อนี้กลับมาเป็นที่นิยม ทะลุผ่านอันดับที่ 500 ได้ในที่สุด และขึ้นมาติดอยู่ในอันดับที่ 286 ขณะที่ Anna น้องสาวของ Elsa เลื่อนอันดับความนิยมขึ้นมาเพียงตำแหน่งเดียวจาก 35 มาอยู่ที่ 34 หรือจะเป็นเพราะว่า Anna เป็นชื่อที่ใช้กันแพร่หลายตลอดมาก็ได้
แต่ที่น่าสนใจมากกว่านั้น และแสดงถึงอิทธิพลของหนังเรื่องนี้ ก็คือชื่อของตัวละครอื่นๆ ใน “Frozen” ที่พลอยเป็นที่นิยมด้วย ตัวอย่างเช่น Olaf มนุษย์หิมะ ซึ่งปรากฎว่ามีเด็กชายเกิดใหม่ใช้ชื่อ Olaf เพิ่มขึ้นจาก 9 คนในปีก่อนที่ “Frozen” จะออกฉาย เป็น 22 คนในปีต่อมา
ชื่อพระเอก Kristoff ก็เพิ่มจาก 7 คนเป็น 32 คนในช่วงเวลาเดียวกัน ที่เหนือกว่า Olaf และ Kristoff คือ Sven กวางเรนเดียร์ของพระเอก Kristoff ที่ทำให้เด็กชายเกิดใหม่ 55 คนมีชื่อ Sven เพิ่มจาก 33 คนในปีก่อนหน้านั้น
ส่วน Prince Hans เจ้าชายผู้ชั่วร้าย ทำร้ายน้ำใจของ Anna นั้น เป็นที่นิยมมาก เพราะในปีที่แล้ว มีเด็กชายเกิดใหม่ชื่อ Hans มากถึง 132 คนเทียบกับ 98 คนในปี 2013 เป็นไปได้หรือไม่ว่า ผู้ร้ายเป็นที่นิยมมากกว่าผู้ดี
แต่ Disney ก็ไม่ได้ประสบความสำเร็จเสมอไปในเรื่องชื่อ เพราะชื่อจากหนังการ์ตูนเรื่อง “Cars” อย่างเช่น ‘Lightning’ หรือ ‘ฟ้าแลบ’ นั้น ไม่มีใครนำไปใช้เลย
แต่ที่ทำให้นักเศรษฐศาสตร์ผู้นี้มีความวิตกกังวลก็คือ Disney นำ “Cinderella” เวอร์ชั่นใหม่ออกฉายในปีนี้ Disney เสนอเวอร์ชั่นแรกไว้ในปี ค.ศ. 1950 และอาจารย์ Justin บอกว่า เวลานี้มีสาวสูงวัยกว่า 60 ราวๆ 100 คนที่ใช้ชื่อ Cinderella
ซึ่งก็น่าจะเป็นเครื่องเตือนใจคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายว่า เวลาตั้งชื่อลูกก็ให้นึกถึงอนาคตที่ยาวไกลของลูกด้วย