รัฐเกรละ ทางใต้ของอินเดีย ประกาศปิดโรงเรียน สำนักงานและสถานีขนส่งต่าง ๆ ในวันพุธ เพื่อควบคุมการระบาดของเชื้อไวรัสนิปาห์ (Nipah) ซึ่งพบได้ยากและเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต หลังจากมีผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสนี้แล้วสองคน ตามรายงานของรอยเตอร์
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐเกรละ รายงานว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบแล้วสามคนที่กำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล เป็นผู้ใหญ่สองคนและเด็กหนึ่งคน และได้เรียกผู้ที่มีโอกาสติดเชื้ออีกมากกว่า 700 คนมาเข้ารับการตรวจหาเชื้อแล้ว ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข 153 คน
ไวรัสนิปาห์สามารถติดต่อกันผ่านการสัมผัสของเหลวจากร่างกายของผู้ติดเชื้อ รวมทั้งจากค้างคาว และสุกร
แถลงการณ์ของสำนักงานสาธารณสุขรัฐเกรละระบุว่า "อาจมีการเรียกประชาชนมาตรวจหาเชื้อเพิ่มขึ้น และได้จัดให้มีสถานที่แยกตัวผู้ติดเชื้อไว้แล้ว" พร้อมขอให้หลีกเลี่ยงการชุมนุมในเมืองโกฬิกโกฏ ซึ่งเป็นสถานที่ตรวจพบเชื้อ เป็นเวลา 10 วัน
เจ้าหน้าที่สาธารณสุขและญาติพี่น้องของผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสนิปาห์ แบกร่างของผู้เสียชีวิตไปฝังที่เมืองโกฬิกโกฏิ เมื่อวันที่ 24 พ.ค. 2018 (แฟ้มภาพ)
การระบาดในรัฐเกรละครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สี่ตั้งแต่ปี 2018 และทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วสองคนตั้งแต่วันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้ประกาศพื้นที่ควบคุมในอย่างน้อยแปดหมู่บ้านในเมืองโกฬิกโกฏ
รัฐมนตรีสาธารณสุขอินเดีย วีนา จอร์จ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า เชื้อไวรัสที่พบในรัฐเกรละเป็นชนิดเดียวกับที่พบในบังกลาเทศก่อนหน้านี้ ซึ่งสามารถติดต่อระหว่างมนุษย์ได้และมีอัตราการเสียชีวิตสูง แต่มีอัตราการติดเชื้อต่ำ
"ขณะนี้มีการจำกัดการเคลื่อนไหวของประชาชนในบางส่วนของรัฐเกรละเพื่อลดโอกาสเกิดวิกฤตทางการแพทย์แล้ว" รัฐมนตรีวีนากล่าว พร้อมเสริมว่าในขณะที่ยังไม่มีวัคซีนสำหรับไวรัสนิปาห์ แพทย์ได้ใช้ยาต้านไวรัสและสารแอนติบอดีในการรักษาผู้ติดเชื้อทั้งสามคนอยู่
ไวรัสนิปาห์ ถูกพบครั้งแรกเมื่อปี 1999 ระหว่างเกิดอาการป่วยแปลกประหลาดในกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกรและผู้ใกล้ชิดกับสัตว์เหล่านั้นที่มาเลเซียและสิงคโปร์ ต่อมาพบผู้ติดเชื้อในแถบเอเชียใต้ในกลุ่มผู้ที่ดื่มน้ำอินทผลัมปนเปื้อนของเสียจากค้างคาว
เมื่อปี 2018 เกิดการระบาดของไวรัสนิปาห์ครั้งแรกในรัฐเกรละ ซึ่งเชื่อว่าติดต่อมาจากค้างคาวผลไม้ที่มีอยู่มากในบริเวณนั้น ทำให้มีผู้เสียชีวิต 21 คน และเกิดการระบาดตามมาอีกสองครั้งในปี 2019 และ 2021 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตสองคน
- ที่มา: รอยเตอร์