นาซ่าเริ่มโครงการสำรวจแหล่งน้ำทั่วโลกจากอวกาศ

NASA Water Satellite

ภารกิจดาวเทียมระหว่างประเทศที่นำโดยองค์การอวกาศนาซ่า ปล่อยตัวจากทางตอนใต้ของรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อไม่นานมานี้ ในโครงการวิทยาศาสตร์โลกครั้งสำคัญเพื่อทำการสำรวจมหาสมุทร ทะเลสาบ และแม่น้ำของโลกอย่างครอบคลุมเป็นครั้งแรก

SWOT ซึ่งย่อมาจาก Surface Water and Ocean Topography คือดาวเทียมเรดาร์ขั้นสูงที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อให้นักวิทยาศาสตร์ได้มองเห็นของเหลวที่ให้ชีวิตซึ่งครอบคลุมพื้นที่ราว 70% ของโลกอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ทำให้เกิดแนวคิดใหม่เกี่ยวกับกลไกและผลที่ตามมาของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

จรวด Falcon 9 ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท SpaceX ของมหาเศรษฐีอิลอน มัสค์ ถูกวางตัวให้เป็นผู้นำนำ SWOT ขึ้นสู่วงโคจรจากฐานทัพอวกาศแวนเดนเบิร์กของสหรัฐฯ ซึ่งอยู่ห่างจากลอสแองเจลิสไปทางตะวันตกเฉียงเหนือประมาณ 275 กม. และหากทุกอย่างดำเนินไปตามแผน ดาวเทียมที่มีขนาดเท่ากับรถ SUV จะสามารถจัดทำข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการวิจัยได้ภายในเวลาหลายเดือน

The advanced radar SWOT satellite, short for Surface Water and Ocean Topography and designed and built at NASA's Jet Propulsion Laboratory (JPL) near Los Angeles, is seen in an artist's rendition created in February 2015.

ในระยะเวลาเกือบ 20 ปีของการพัฒนา SWOT ได้รวมเทคโนโลยีไมโครเวฟเรดาร์ขั้นสูงที่นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าจะสามารถรวบรวมการวัดความสูง-พื้นผิวของมหาสมุทร ทะเลสาบ อ่างเก็บน้ำ และแม่น้ำด้วยรายละเอียดที่มีความละเอียดสูงกว่า 90%

นักวิจัยเผยว่า ข้อมูลที่รวบรวมจากการตรวจจับด้วยเรดาร์ของดาวเคราะห์อย่างน้อยสองครั้งทุก ๆ 21 วัน จะช่วยพัฒนาแบบจำลองการไหลเวียนของมหาสมุทร ช่วยในเรื่องการพยากรณ์อากาศและสภาพอากาศ และช่วยในการจัดการแหล่งน้ำจืดที่ขาดแคลนในพื้นที่แห้งแล้ง

ดาวเทียมดังกล่าวได้รับการออกแบบและสร้างขึ้นที่ Jet Propulsion Laboratory (JPL) ขององค์การนาซ่า ใกล้กับลอสแองเจลิส ส่วน SWOT พัฒนาขึ้นโดยหน่วยงานอวกาศของสหรัฐฯ โดยร่วมมือกับหน่วยงานในฝรั่งเศสและแคนาดา

The Surface Water and Ocean Topography (SWOT) radar satellite spacecraft is moved into a transport container inside the Astrotech facility at Vandenberg Space Force Base in California, U.S. November 18, 2022. USSF/Chris Okula/Handout via REUTERS.

เบน แฮมลิงตัน (Ben Hamlington) นักวิทยาศาสตร์ของ JPL ซึ่งเป็นผู้นำทีมการศึกษาระดับการเปลี่ยนแปลงระดับน้ำทะเลของนาซ่ากล่าวว่า "นี่เป็นภารกิจแรกในการสังเกตระดับน้ำเกือบทั้งหมดบนพื้นผิวโลก"

ภารกิจหลักอย่างหนึ่งคือ การสำรวจว่ามหาสมุทรสามารถดูดซับความร้อนในชั้นบรรยากาศและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อย่างไรในกระบวนการทางธรรมชาติที่ควบคุมอุณหภูมิโลกและการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ

ในการสแกนมหาสมุทรจากวงโคจรนั้น SWOT ได้รับการออกแบบมาเพื่อวัดความแตกต่างได้อย่างแม่นยำของระดับความสูงของพื้นผิวรอบ ๆ กระแสน้ำที่มีขนาดเล็กลง ซึ่งเชื่อว่ามีการดึงความร้อนและคาร์บอนของมหาสมุทรเกิดขึ้นมากมาย และ SWOT สามารถทำได้ด้วยความละเอียดสูงกว่าเทคโนโลยีที่มีอยู่ถึง 10 เท่า ตามข้อมูลของ JPL

SWOT Launch

มีการประเมินว่ามหาสมุทรได้ดูดซับความร้อนส่วนเกินมากกว่า 90% ที่ถูกกักไว้ในชั้นบรรยากาศโลกโดยการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่มนุษย์สร้างขึ้นมา

Nadya Vinogradova Shiffer นักวิทยาศาสตร์โครงการ SWOT ของ NASA ในวอชิงตัน กล่าวว่า การศึกษากลไกที่เกิดขึ้นจะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ด้านภูมิอากาศตอบคำถามสำคัญที่ว่า "อะไรคือจุดเปลี่ยนที่มหาสมุทรเริ่มปล่อยความร้อนจำนวนมหาศาลกลับคืนสู่ชั้นบรรยากาศแทนที่จะดูดซับ และเป็นตัวเร่งภาวะโลกร้อนแทนที่จะจำกัดเอาไว้

นอกจากนี้แล้ว ความสามารถของ SWOT ยังถูกนำมาใช้เพื่อศึกษาผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นบนแนวชายฝั่งอีกด้วย โดยข้อมูลที่แม่นยำมากขึ้นตามเขตน้ำขึ้นน้ำลงจะช่วยทำนายว่า เหตุการณ์น้ำท่วมจากคลื่นพายุซัดฝั่งอาจทะลุผ่านแผ่นดินได้ไกลเพียงใด ตลอดจนขอบเขตของน้ำเค็มที่รุกล้ำเข้าไปยังปากแม่น้ำ พื้นที่ชุ่มน้ำ และชั้นหินอุ้มน้ำใต้ดิน

  • ที่มา: รอยเตอร์