บริษัทเจ้าของแอป 'ทินเดอร์' เพิ่มแรงกดดันแอปเปิลกรณีผูกขาดในอินเดีย

บริษัท แมทช์ กรุ๊ป (Match Group) เจ้าของแอปหาคู่ออนไลน์ยอดนิยม ทินเดอร์ (Tinder) ยื่นฟ้องแอปเปิล (Apple) ในคดีต่อต้านการผูกขาดในอินเดีย โดยกล่าวหาว่าบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ รายนี้ "กระทำการในลักษณะผูกขาด" ซึ่งทำให้ผู้พัฒนาแอปในโทรศัพท์ไอโฟนต้องจ่ายค่าคอมมิชชั่นในราคาสูง ตามรายงานของรอยเตอร์

ปัจจุบัน แอปเปิลกำลังเผชิญการฟ้องร้องในคดีต่อต้านการผูกขาดในหลายประเทศ แต่สำหรับในอินเดียนั้น แมทช์ กรุ๊ป คือบริษัทต่างชาติรายแรกที่ฟ้องแอปเปิลในคดีนี้รวมทั้งหมด 3 กรณี

ก่อนหน้านี้ แมทช์ได้ฟ้องร้องแอปเปิลว่า กระทำการที่เข้าข่ายจำกัดการคิดค้นและพัฒนานวัตกรรมใหม่ของบรรดาผู้พัฒนาแอป โดยบังคับให้นักพัฒนาแอปต้องอาศัยช่องทางการชำระเงินของแอปเปิลเท่านั้น และแอปเปิลยังเรียกเก็บค่าคอมมิชชั่นถึง 30% ในกรณีที่ผู้ใช้ชำระเงินภายในแอปนั้น ๆ ด้วย

ทางบริษัทแอปเปิล และหน่วยงานกำกับดูแลเรื่องการแข่งขันทางการค้าในอินเดีย (Competition Commission of India - CCI) มิได้ตอบกลับคำขอของรอยเตอร์ที่ต้องการสอบถามความเห็นในเรื่องนี้ ขณะที่โฆษกของบริษัทแมทช์ก็ปฏิเสธที่จะให้ความเห็นเช่นกัน

ทั้งนี้ ทินเดอร์ คือหนึ่งในแอปหาคู่ยอดนิยมของอินเดียในแง่ของจำนวนผู้ใช้และเวลาที่ใช้ในแอป ตามข้อมูลของ Sensor Tower

SEE ALSO: แอปเปิล เริ่มต้นสายการผลิตไอโฟน 13 ในอินเดีย

เมื่อเดือนธันวาคม CCI เริ่มกระบวนการสืบสวนข้อกล่าวหาจากองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร Together We Fight Society ที่ว่า ระบบชำระเงินภายในแอปสร้างผลเสียต่อการแข่งขันในอินเดีย เนื่องจากเพิ่มต้นทุนของผู้ใช้และผู้พัฒนาแอป นอกจากนี้ยังเข้าข่ายกีดกันผู้แข่งขันรายใหม่เข้าสู่ตลาดด้วย

อย่างไรก็ตาม แอปเปิลไม่ยอมรับผิด โดยบอกว่าไม่ใช่ผู้ครองตลาดรายใหญ่ในอินเดียด้วยส่วนแบ่งตลาดเพียง 0-5% เมื่อเทียบกับโทรศัพท์แอนดรอยด์ของกูเกิล (Google) ที่มีส่วนแบ่งตลาด 90-100%

ฝั่งแอปเปิลแย้งด้วยว่า ค่าคอมมิชชั่นที่เรียกเก็บจากผู้พัฒนาระบบได้ครอบคลุมถึงการรักษาความปลอดภัยและประโยชน์การโฆษณาแอพ แต่หลาย ๆ บริษัทไม่เห็นเช่นนั้นและมองว่าแอปเปิลกีดกัดการเข้าถึงตลาด และทำตัวเป็น “พ่อค้าคนกลาง” เพราะแอปเปิลสั่งห้ามผู้พัฒนาระบบไม่ให้บอกผู้ใช้ว่ามีช่องทางอื่นที่สามารถดาวโหลด์แอปหรือเนื้อหาได้

คดีนี้ยังถกประเด็นเรื่องความเสียหายต่อบริษัทบริการชำระเงินอื่น ๆ ในอินเดียที่เก็บค่าคอมมิชชั่นในอัตราระหว่าง 1-5% ซึ่งต่ำกว่าแอปเปิลมาก

ขณะที่สถาบัน Counterpoint Research เปิดเผยสถิติการใช้สมารท์โฟนในอินเดียจนถึงสิ้นปีค.ศ. 2020 ว่า ระบบปฏิบัติการ iOS ของแอปเปิลถูกใช้เพียงแค่ 2% จากสมารท์โฟนทั้งหมด 520 ล้านเครื่อง ส่วนที่เหลือนั้นใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์

อย่างไรก็ตาม ชาวอินเดียใช้โทรศัพท์ของแอปเปิลมากขึ้นกว่าเท่าตัวในช่วงห้าปีที่ผ่านมา

  • ที่มา: รอยเตอร์