รัสเซีย-ยูเครน กล่าวหาอีกฝ่ายโจมตีเรือนจำนักโทษสงครามยูเครน เสียชีวิตหลายสิบราย

FILE - Ukrainian prisoners of war stand as Russia-backed separatists watch in front of the destoryed airport building outside Donetsk, Ukraine, Feb. 25, 2015.

รัสเซียและยูเครนกล่าวหากันและกันว่าเป็นผู้โจมตีด้วยขีปนาวุธหรือระเบิดใส่สถานที่คุมขังนักโทษสงครามของยูเครน ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน ตามรายงานของรอยเตอร์

เหตุการณ์สังหารนักโทษสงครามชาวยูเครนครั้งนี้ได้รับการยืนยันจากผู้สื่อข่าวของรอยเตอร์ที่อยู่ในพื้นที่ ถือเป็นการกลบความพยายามของสหประชาชาติที่ต้องการให้ยูเครนกลับมาส่งออกธัญพืชได้อีกครั้งและลดปัญหาขาดแคลนอาหารในตลาดโลก

กระทรวงกลาโหมรัสเซียรายงานว่า มีนักโทษสงครามเสียชีวิต 40 คน บาดเจ็บอีก 75 คน ในการโจมตีเรือนจำแห่งหนึ่งในเมืองโอเลนีฟกาเมื่อวันพฤหัสบดี ซึ่งอยู่ในพื้นที่เขตปกครองดอแนตสก์ซึ่งครอบครองโดยกลุ่มแบ่งแยกดินแดนที่รัสเซียให้การสนับสนุน และเผยว่ามีเจ้าหน้าที่เรือนจำได้รับบาดเจ็บ 8 คน

SEE ALSO: รัสเซียยึดโรงไฟฟ้าอันดับ 2 ของยูเครน

ด้านโฆษกกลุ่มแบ่งแยกดินแดนรายงานตัวเลขผู้เสียชีวิต 53 คน พร้อมกล่าวหาว่ายูเครนเป็นผู้โจมตีเรือนจำดังกล่าวด้วยระบบยิงจรวดแบบ HIMARS ซึ่งผลิตในสหรัฐฯ เป้าหมายเพื่อปิดปากบรรดานักโทษสงครามเหล่านั้นก่อนที่พวกเขาจะแพร่งพรายเรื่องการก่ออาชญากรรมของทหารยูเครน

แต่ทางกองกำลังยูเครนปฏิเสธข้อกล่าวหานี้พร้อมระบุว่า รัสเซียเป็นฝ่ายใช้ปืนใหญ่โจมตีสถานที่คุมขังนักโทษสงครามเหล่านั้นเพื่อปิดบังการกระทำที่รุนแรงต่อบรรดาผู้ถูกคุมขังที่นั่น โดยรัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนกล่าวหาด้วยว่า รัสเซียก่ออาชญากรรมสงครามและขอให้ประชาคมโลกร่วมประณามรัฐบาลกรุงมอสโก

ด้านสำนักงานความมั่นคงของยูเครนเปิดเผยว่า ได้ดักฟังข้อมูลทางโทรศัพท์ที่บ่งชี้ว่าทหารรัสเซียเป็นผู้โจมตีเรือนจำดังกล่าว ขณะที่ฝ่ายข่าวกรองของยูเครนระบุว่าเกิดระเบิดที่อาคารซึ่งใช้เป็นที่คุมขังนักโทษสงครามที่จับกุมมาจากโรงงานเหล็กอซอฟสตาลในเมืองมาริอูโพล เชื่อว่าเป็นฝีมือการวางระเบิดของทหารรับจ้างจากบริษัท แวกเนอร์ กรุ๊ป (Wagner Group) ของรัสเซีย

การเจรจาระหว่างรมว.ต่างประเทศรัสเซีย-สหรัฐฯ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย เซอร์เก ลาฟรอฟ เจรจาทางโทรศัพท์กับรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ แอนโทนี บลิงเคน ในวันศุกร์ โดยกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียเปิดเผยว่า รมต.ลาฟรอฟ ได้กล่าวกับรมต.บลิงเคนว่า รัสเซียจะเดินหน้าเพื่อให้บรรลุเป้าหมายทั้งหมดของ "ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร" ในยูเครน และว่า การที่ชาติตะวันตกส่งอาวุธให้กับยูเครนจะยิ่งทำให้สงครามยืดเยื้อออกไปและมีผู้เสียชีวิตมากขึ้น

การเจรจาดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัสเซียและยูเครนได้บรรลุข้อตกลงเปิดทางให้ยูเครนส่งออกธัญพืชจากท่าเรือในเมืองโอเดซาในแถบทะเลดำได้อีกครั้ง ซึ่งถือเป็นความสำเร็จทางการทูตครั้งสำคัญครั้งแรกของสองประเทศหลังจากเกิดสงครามเมื่อเดือนกุมภาพันธ์

เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวว่า ขณะนี้ยูเครนพร้อมขนส่งธัญพืชออกจากท่าเรือสองแห่งในเมืองโอเดซาตามข้อตกลงที่ทำไว้แล้ว แต่ยังมิได้ระบุวันที่แน่ชัด โดยหวังว่าการขนส่งล็อตแรกจะสามารถทำได้ก่อนสุดสัปดาห์นี้

  • ที่มา: รอยเตอร์