รองปธน.แฮร์ริส ประกาศแผนตั้งสถานทูตสหรัฐฯ ในคิริบาส-ตองกา

รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ คามาลา แฮร์ริส ประกาศแผนตั้งสถานทูตสหรัฐฯ ในคิริบาส และตองกา ระหว่างเข้าร่วมการประชุมของผู้นำกลุ่มประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรแปซิฟิก ที่ฟิจิ ในวันอังคาร

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า รองปธน.แฮร์ริส ประกาศมาตรการใหม่เพื่อขยายการมีส่วนร่วมของสหรัฐฯ ในประเทศหมู่เกาะทางใต้ของแปซิฟิก ท่ามกลางการขยายอิทธิพลของจีนในภูมิภาคนี้

มาตรการดังกล่าวรวมถึงการตั้งสถานทูตสหรัฐฯ ประจำสาธารณรัฐคิริบาส และประเทศตองกา แต่งตั้งผู้แทนสหรัฐฯ คนแรกประจำกลุ่มประเทศหมู่เกาะในแปซิฟิก และส่งองค์กร Peace Corps กลับไปทำงานในภูมิภาคดังกล่าว

นอกจากนั้น จะมีการจัดตั้งโครงการของสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (U.S. Agency for International Development) หรือ USAID ที่ประเทศฟิจิ พร้อมกับขอให้รัฐสภาสหรัฐฯ อนุมัติเงินช่วยเหลือด้านเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นอีกเกือบสามเท่าให้แก่ประเทศต่าง ๆ ในภูมิภาคนี้ด้วย

ทั้งนี้ รัฐบาลสหรัฐฯ ให้สัญญาว่าจะทุ่มทรัพยากรต่าง ๆ ในยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก ในขณะที่จีนกำลังเพิ่มการลงทุนและกระชับความร่วมมือทางทหารและเศรษฐกิจกับหลายประเทศในมหาสมุทรแปซิฟิกตอนใต้ที่ต้องการการลงทุนจากต่างชาติ

เมื่อต้นปีนี้ รัฐบาลปักกิ่งได้ทำข้อตกลงด้านความมั่นคงกับประเทศหมู่เกาะโซโลมอน ซึ่งออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ หวั่นเกรงว่า อาจนำไปสู่การประจำการของกองทัพเรือจีนในประเทศดังกล่าว โดยก่อนหน้านี้ รัฐบาลอเมริกันประกาศแผนเร่งการเปิดใช้สถานทูตสหรัฐฯ ที่ประเทศหมู่เกาะโซโลมอนเช่นกัน

SEE ALSO: จับตาแผนยุทธศาสตร์แปซิฟิกของจีน ตัวเปลี่ยนเกมศึกชิงอำนาจในเอเชีย?

ยุทธศาสตร์แปซิฟิกของจีน: สานสัมพันธ์ชาติหมู่เกาะ

เมื่อเดือนพฤษภาคม จีนได้เดินหมากทางทหารในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ด้วยการเสนอให้ 10 ประเทศขนาดเล็กในเเถบมหาสุมทรแปซิฟิก ได้เเก่ ประเทศหมู่เกาะโซโลมอน คิริบาส ซามัว ฟิจิ ตองกา วานูอาตู และปาปัวนิวกินี รวมไปถึงหมู่เกาะคุกส์ นีอูเอ และสหพันธรัฐไมโครนีเซีย ยอมรับร่างความตกลงที่ครอบคลุมหลายประเด็น ตั้งเเต่การประมง ระบบโทรคมนาคมและการค้า การตั้งสถาบันขงจื้อ และการอบรมด้านความมั่นคง และยังต้องการทำความตกลงด้านการค้าเสรีกับประเทศเหล่านี้

สำนักข่าวเอพีรายงานว่า จีนต้องการฝึกฝนเจ้าหน้าที่ตำรวจประจำภาคพื้นแปซิฟิก ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมดูแลในด้านความมั่นคง และขยายความร่วมมือด้านการรักษากฎหมายด้วย ซึ่งหากประเทศเหล่านี้ยอมรับข้อเสนอบางส่วนจากจีน อาจทำให้จีนสามารถแผ่ขยายอำนาจในแถบแปซิฟิกไปไกลถึงบริเวณใกล้ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ รัฐฮาวาย ไปจนถึงเกาะกวมซึ่งมีฐานทัพของสหรัฐฯ ตั้งอยู่

จีนเน้นย้ำว่า ข้อเสนอดังกล่าวมีเป้าหมายที่การสร้างเสถียรภาพและการกระตุ้นเศรษฐกิจในภูมิภาคนี้ แต่ผู้เชี่ยวชาญและรัฐบาลหลายประเทศหวั่นเกรงว่าจีนอาจมีแผนซุกซ่อนอยู่ใต้สิ่งที่แถลงออกมา นั่นคือการขยายอิทธิพลในพื้นที่สำคัญทางยุทธศาสตร์

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เชื่อว่า สำหรับประเทศหมู่เกาะเหล่านั้น มิได้หมายความว่าพวกเขาจำเป็นต้องเลือกระหว่างจีนกับชาติตะวันตก แต่หากมีเพียงบางประเทศที่ตัดสินใจลงนามกับจีนจริง ๆ ก็เพียงพอที่จะส่งผลกระทบมหาศาลต่อภูมิรัฐศาสตร์ในแถบเอเชีย-แปซิฟิก ได้เช่นกัน

  • ที่มา: รอยเตอร์ เอพี และวีโอเอ