สมาคมปืนไรเฟิลแห่งชาติ หรือ เอ็นอาร์เอ (National Rifle Association - NRA) กลุ่มรณรงค์เพื่อสิทธิในการครอบครองอาวุธปืนที่ทรงอิทธิพลของสหรัฐฯ ยังคงเดินหน้าจัดงานมหกรรมปืนประจำปีในวันศุกร์นี้ที่เมืองฮูสตัน รัฐเท็กซัส ถึงแม้ว่าจะเพิ่งเกิดเหตุการณ์ยิงกราดที่โรงเรียนประถมศึกษา Robb Elementary School ในเมืองยูวัลดี ที่ทำให้มีนักเรียนและครูเสียชีวิตทั้งหมด 21 คนก็ตาม
ผู้ว่าการรัฐเท็กซัส เกร็ก แอบบอตต์ (Greg Abbott) ซึ่งมีกำหนดการที่จะขึ้นกล่าวปราศรัยที่งานมหกรรมปืนดังกล่าวด้วยตัวเอง ได้ถอนตัวไม่ไปปรากฎตัวในงานดังกล่าว และจะเดินทางไปยังเมืองยูวัลดีแทน อย่างไรก็ตาม แอบบอตต์ยังจะกล่าวปราศรัยโดยการอัดเทปไว้ล่วงหน้า ตามการรายงานของสื่อท้องถิ่น The Dallas Morning News
ด้านอดีตประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ มีกำหนดขึ้นกล่าวปราศรัยในมหกรรมปืนของ NRA ซึ่งจะมีขึ้นป็นเวลา 3 วัน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของเท็กซัสกำลังถูกสังคมตั้งคำถามอย่างหนักถึงการตอบสนองต่อเหตุยิงกราดที่โรงเรียน Robb Elementary School และช่วงเวลาทิ้งห่างก่อนที่เจ้าหน้าที่จะบุกเข้าไปในโรงเรียนและเผชิญหน้ากับ ซัลวาดอร์ รามอส (Salvador Ramos) มือปืนวัย 18 ปี ทางการรายงานว่า รามอส ซึ่งเป็นผู้ที่เรียนไม่จบชั้นมัธยมศึกษา บุกเข้ามาในโรงเรียน Robb Elementary School เป็นเวลา 40 นาที ถึงประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ตำรวจจะบุกเข้ามาที่ห้องเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ซึ่งเป็นห้องเรียนที่รามอสบุกเข้าไปใช้ปืนกราดยิงนักเรียน 19 คนและครู 2 คน
พยานผู้เห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ผู้ปกครองของเด็กนักเรียนที่ยังติดอยู่ในโรงเรียน และผู้ที่เห็นเหตุการณ์คนอื่น ๆ ได้ตะโกนเรียกให้ตำรวจบุกเข้าไปในโรงเรียนและจัดการกับมือปืน
People protest against gun laws outside the National Rifle Association (NRA) annual convention in Houston, Texas, U.S. May 27, 2022. REUTERS/Daniel Kramer
ในวันพฤหัสบดี มีความชัดเจนเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับลำดับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น วิคเตอร์ เอสคาลอน (Victor Escalon) ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของกรมความปลอดภัยเท็กซัส (Texas Department of Public Safety) กล่าวว่ารามอสเข้ามาในอาคารของโรงเรียนทางประตูที่ไม่ได้ล็อก และไม่ได้เผชิญกับเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของโรงเรียน ซึ่งขัดกับรายงานที่มีออกมาก่อนหน้านี้
ปกติแล้วโรงเรียนจะมีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยที่ติดอาวุธอยู่ แต่เมื่อรามอสเข้ามาที่โรงเรียนในวันอังคารนั้น กลับไม่มีเจ้าหน้าที่ติดอาวุธอยู่บริเวณนั้น และรามอสก็สามารถเข้ามาได้ “โดยไม่มีอะไรกีดขวาง” ตามการรายงานของผู้อำนวยการระดับภูมิภาคของกรมความปลอดภัยเท็กซัส
รามอสถูกยิงเสียชีวิตโดยทีมเจ้าหน้าที่หน่วยตระเวนชายแดน
ฮาเวียร์ คาซาเรส พ่อของนักเรียนหญิงชั้น ป.4 ที่ถูกยิงเสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ กล่าวว่าเขาเสนอให้ผู้ที่เห็นเหตุการณ์ร่วมกันบุกเข้าไปในอาคารของโรงเรียน เพราะเขาคิดว่าตำรวจไม่สามารถตอบสนองต่อเหตุการณ์ได้ทันท่วงที
ในขณะที่ภาพวีดีโอที่มีการเผยแพร่ทางโซเชียลมีเดีย ก็แสดงให้เห็นภาพของผู้ปกครองของนักเรียนที่พยายามจะผลักดันให้ตำรวจเข้าไปจัดการกับเหตุการณ์ให้เร็วขึ้นและช่วยเหลือลูกหลานของพวกเขาออกมา ตามการรายงานของ The Washington Post
ในวันพุธ ผู้อำนวยการกรมความปลอดภัยเท็กซัส สตีฟ แม็คครอว์ (Steve McCraw) ออกมาปกป้องตำรวจโดยกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ไปที่โรงเรียนแล้ว และได้เข้าจัดการทันที โดยเข้ายับยั้งมือปืนในห้องเรียน ก่อนที่มือปืนจะถูกยิงเสียชีวิต
People mourn victims of the Robb Elementary School mass shooting, in Uvalde, Texas
ทางการเท็กซัสยังคงสืบสวนเพื่อหาแรงจูงใจในการยิงกราดครั้งนี้ ซึ่งเป็นเหตุยิงในโรงเรียนที่ร้ายแรงที่สุดในสหรัฐฯ ในรอบเกือบ 10 ปี ทางการรายงานว่ารามอส ไม่มีประวัติอาชญากรรมหรือปัญหาสุขภาพจิตมาก่อน ถึงแม้ว่าผู้ที่รู้จักรามอสจะเล่าว่าเขามีพฤติกรรมต่อต้านสังคมที่น่าเป็นห่วง เช่น การยิงปืนอัดลม บีบี กัน (BB gun) ใส่ผู้คนที่เดินไปมาในเมืองยูวัลดี เป็นต้น
หญิงสาวชาวเยอรมันวัย 15 ปีที่รามอสพูดคุยด้วยทางโซเชียลมีเดีย กล่าวว่ารามอสบอกเธอว่าเขา “ขว้างศพแมวตายใส่บ้านคนอื่น” ด้วย
รามอสยังบอกเธอก่อนที่จะลงมือด้วยว่า เขากำลังจะบุกเข้าไปยิงที่โรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่ง
นอกจากจะมีผู้เสียชีวิต 21 คน และผู้บาดเจ็บอีก 17 แล้ว โจ การ์เซีย สามีของครูคนหนึ่งที่ถูกยิงเสียชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ยังเสียชีวิตด้วยอาการหัวใจวายเฉียบพลันในขณะที่เขาเตรียมงานศพให้กับภรรยา ที่แต่งงานอยู่กินกับเขามาเป็นเวลา 24 ปีอีกด้วย
หลังเหตุการณ์ยิงกราดที่โรงเรียน Robb Elementary School ครั้งนี้ นักเรียนและนักศึกษาตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัยหลายแห่งทั่วสหรัฐฯ ได้ทำการประท้วงโดยการเดินออกจากห้องเรียนในวันพฤหัสบดี และเรียกร้องให้มีการใช้มาตรการควบคุมการซื้อและครอบครองอาวุธปืนที่เข้มงวดกว่านี้
ทางทำเนียบขาวแถลงว่า ประธานาธิบดีโจ ไบเดน และสุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง จิล ไบเดน จะเดินทางไปเท็กซัสในวันอาทิตย์เพื่อร่วมไว้อาลัยกับชุมชนยูวัลดี
- รายงานส่วนหนึ่งมาจาก เอพี และรอยเตอร์